คำตอบคำตอบ
กรณีตามคำถาม แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ หมายถึง รูปถ่ายทางอากาศซึ่งได้จากการบินถ่าย
ภาพทางอากาศในพื้นที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งเพื่อใช้ผลิตระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศหรือระวางรูปถ่าย
ทางอากาศ โดยกรมที่ดินจัดสร้างระวางดังกล่าว ๓ ประเภท กล่าวคือ
๑. ระวางรูปถ่ายทางอากาศ มาตราส่วน ๑ : ๕,๐๐๐ เพื่อใช้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ ก.)
๒. ระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ ซึ่งได้ปรับแก้ความเอียงของพื้นผิวโลกแล้ว มาตราส่วน
๑ : ๔,๐๐๐ เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวในภูมิประเทศด้านละ ๕๐ เส้น หรือ ๒ กิโลเมตร เป็น ๑ ระวาง โดยถือ ระวางแผนที่มาตราส่วน ๑ : ๔,๐๐๐ เป็นมาตรฐาน ดังนั้น ระวางแผนที่ จึงมีขนาดกรอบกว้างและยาวด้านละ ๕๐ เซนติเมตร มาตราส่วนของระวางแผนที่อาจขยายให้ใหญ่ขึ้นอีกตามความเหมาะสม ใช้ในการออกโฉนดที่ดิน
๓. ระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ มาตราส่วน ๑ : ๑,๐๐๐ เพื่อใช้ปรับปรุงระวางแผนที่
และเมื่อประกาศใช้มาตรา ๕๖/๑ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งกำหนดไว้ว่า การออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ถ้าเป็นที่ดินที่มีอาณาเขตติดต่อคาบเกี่ยวหรืออยู่ในท้องที่เขตที่ดินของรัฐที่มีระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศหรือระวางรูปถ่ายทางอากาศ พนักงานเจ้าหน้าที่จะออกให้ได้ต่อเมื่อตรวจสอบกับระวางแผนที่
รูปถ่ายทางอากาศฉบับที่ทำขึ้นก่อนสุดเท่าที่ทางราชการมีอยู่แล้วว่า เป็นที่ดินที่สามารถออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้…” กล่าวคือ ไม่ต้องอ่านแปลภาพทุกแปลง จะอ่านแปลเฉพาะที่ดินที่มีอาณาเขตติดต่อคาบเกี่ยวหรืออยู่ในเขตที่ดินของรัฐ เท่านั้น ซึ่ง ที่ดินของรัฐ หมายถึง ที่ดินสาธารณ-สมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ที่สงวนหวงห้ามตามประมวลกฎหมายที่ดินและกฎหมายอื่น ที่ดินที่คณะรัฐมนตรีสงวนไว้เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างอื่น เช่น ที่เลี้ยงสัตว์สาธารณประโยชน์ ที่ราชพัสดุ ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยาน-แห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขตป่าไม้ถาวร เป็นต้น
ขั้นตอนการดำเนินการตามมาตรา ๕๖/๑ ฯ นั้น จึงต้องมีการตรวจสอบที่ดินกับระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ หรือระวางรูปถ่ายทางอากาศ แล้วแต่กรณี หรือการตรวจสอบด้วยวิธีอื่น ซึ่งกรมที่ดินได้กำหนดระเบียบ ว่าด้วยการตรวจสอบที่ดินเพื่อออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ กรณีเป็นที่ดินที่มีอาณาเขตติดต่อคาบเกี่ยวกับหรืออยู่ในเขตที่ดินของรัฐด้วยวิธีอื่น พ.ศ. ๒๕๕๑ ไว้ดังนี้
ข้อ ๖ ในการนำหลักฐานที่ดินเดิมมาดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ตามมาตรา ๕๘ ทวิ วรรคสอง (๑) และมาตรา ๕๙ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ดังนี้
(๑) ตรวจสอบหลักฐานที่ดินเดิมและหลักฐานทางทะเบียนที่ดินว่าผู้ขอเป็นผู้มีสิทธิในที่ดิน
/และ…
-๒-
และหลักฐานที่ดินเดิมดังกล่าวถูกต้องตรงตามหลักฐานที่ทางราชการมีอยู่หรือไม่ ประการใด โดยบันทึกการตรวจสอบไว้ในเรื่องราวด้วย
(๒) ตรวจสอบว่าที่ดินข้างเคียงทุกด้านถูกต้องตรงกับหลักฐานที่ดินเดิมที่นำมาแสดงหรือไม่ โดยตรวจสอบเบื้องต้นเกี่ยวกับระยะแนวเขตที่ดินและให้เจ้าหน้าที่บันทึกถ้อยคำเจ้าของที่ดิน เจ้าของที่ดินข้างเคียง ตลอดจนผู้ปกครองท้องที่ไว้เป็นหลักฐาน หากมีความแตกต่างหรือเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งบันทึกเหตุแห่งความแตกต่างหรือเปลี่ยนแปลงไว้ให้ชัดเจนว่าเป็นเพราะเหตุใด มีความเกี่ยวเนื่องกับที่ดินข้างเคียงตามที่แจ้งไว้ในหลักฐานเดิมอย่างไร ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเขตการปกครองในพื้นที่นั้น ให้บันทึกการเปลี่ยนแปลงให้ชัดเจนพร้อมแนบหลักฐานการเปลี่ยนแปลงเขตการปกครอง (ถ้ามี) ไว้ในเรื่องด้วย
(๓) ตรวจสอบสภาพการทำประโยชน์ว่ามีความเป็นไปได้ตรงกับที่ได้แจ้งในหลักฐานที่นำมาแสดงในการขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์หรือไม่ เช่น ในหลักฐานที่ดินเดิมแจ้งสภาพการทำประโยชน์เป็นที่นา แต่ที่ดินที่นำทำการตรวจสอบเป็นที่ป่าชายเลนซึ่งใช้ประโยชน์ในการทำนาไม่ได้ อันเป็นเหตุให้สงสัยได้ว่าที่ดินที่นำทำการตรวจสอบนั้นเป็นที่ดินไม่ตรงตามหลักฐานที่ดินเดิม เป็นต้น
(๔) กรณีที่ชื่อผู้ขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ไม่ตรงกับชื่อในหลักฐานที่ดินเดิมที่ผู้ขอนำมายื่นขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ให้สอบสวนและบันทึกถ้อยคำผู้ขอ ผู้ปกครองท้องที่และผู้ที่เชื่อถือได้ ว่ามีการครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากผู้มีชื่อในหลักฐานที่ดินเดิมอย่างไร ตั้งแต่เมื่อใด
(๕) กรณีที่มีเหตุอันสมควรสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าที่ดินที่ขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์อาจไม่ตรงกับหลักฐานที่ผู้ขอนำมาแสดง ให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสาขา เจ้าพนักงานที่ดินหัวหน้าส่วนแยก นายอำเภอ ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ หรือผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจ แล้วแต่กรณี ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการอย่างน้อย ๓ คน เพื่อพิจารณาตรวจสอบสภาพที่ดินและการครอบครองทำประโยชน์เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่า ที่ดินที่ขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นที่ดินที่ตรงตำแหน่งตามหลักฐานที่ผู้ขอนำมาแสดงหรือไม่ อย่างไร มีหลักฐานใดประกอบในการตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบแล้วให้คณะกรรมการรายงานผลต่อผู้แต่งตั้งเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการให้แก่ผู้ขอต่อไป
ข้อ ๗ หากการดำเนินการตามข้อ ๖ ยังไม่ได้ข้อยุติว่าที่ดินที่ขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตรงตามหลักฐานที่ผู้ขอนำมาแสดง และเป็นที่ดินที่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะออก
โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ ให้ดำเนินการตรวจสอบกับระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ
/หรือ…
-๓-
ระวางรูปถ่ายทางอากาศฉบับที่ทำขึ้นก่อนสุดเท่าที่ทางราชการมีอยู่ โดยตรวจสอบกับแผนที่ภาพถ่าย
ทางอากาศของกรมแผนที่ทหารว่าเป็นที่ดินที่สามารถออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้หรือไม่
สำหรับกรณีที่ดินของท่านมีเพียงหลักฐาน ภ.บ.ท. ๕ ถือว่าเป็นที่ดินที่ไม่มีหลักฐานสำหรับที่ดิน
ถ้ามีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า ท่านได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อนวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๔๙๗ และไม่เป็น
ที่ป่าไม้ , ที่ ส.ป.ก. หรือที่สงวนหวงห้ามอื่น สามารถขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะราย โดยมิได้แจ้งการครอบครอง ตามมาตรา ๕๙ ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยยื่นคำขอ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา โทร. ๐-๔๔๒๔-๒๑๕๑ , ๐-๔๔๒๔-๔๓๕๓ หรือโดยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน แต่ถ้าท่านได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินภายหลังวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๔๙๗ สามารถออกโฉนดที่ดินได้โดยการเดินสำรวจออก
โฉนดที่ดินได้เพียงวิธีเดียว ซึ่งสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัด
นครราชสีมา ซึ่งจะตั้งสถานที่ทำการเป็นการชั่วคราวในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ประมาณวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ซึ่งท่านสามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดที่ตั้งของศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน
จังหวัดนครราชสีมาได้ที่ โทร. ๐๘ – ๑๘๒๔ – ๙๕๓๗ หรือที่สำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา โทร.
๐-๔๔๒๔-๒๑๕๑ , ๐-๔๔๒๔-๔๓๕๓
กรณีตามคำถาม แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ หมายถึง รูปถ่ายทางอากาศซึ่งได้จากการบินถ่าย
ภาพทางอากาศในพื้นที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งเพื่อใช้ผลิตระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศหรือระวางรูปถ่าย
ทางอากาศ โดยกรมที่ดินจัดสร้างระวางดังกล่าว ๓ ประเภท กล่าวคือ
๑. ระวางรูปถ่ายทางอากาศ มาตราส่วน ๑ : ๕,๐๐๐ เพื่อใช้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ ก.)
๒. ระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ ซึ่งได้ปรับแก้ความเอียงของพื้นผิวโลกแล้ว มาตราส่วน
๑ : ๔,๐๐๐ เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวในภูมิประเทศด้านละ ๕๐ เส้น หรือ ๒ กิโลเมตร เป็น ๑ ระวาง โดยถือ ระวางแผนที่มาตราส่วน ๑ : ๔,๐๐๐ เป็นมาตรฐาน ดังนั้น ระวางแผนที่ จึงมีขนาดกรอบกว้างและยาวด้านละ ๕๐ เซนติเมตร มาตราส่วนของระวางแผนที่อาจขยายให้ใหญ่ขึ้นอีกตามความเหมาะสม ใช้ในการออกโฉนดที่ดิน
๓. ระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ มาตราส่วน ๑ : ๑,๐๐๐ เพื่อใช้ปรับปรุงระวางแผนที่
และเมื่อประกาศใช้มาตรา ๕๖/๑ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งกำหนดไว้ว่า การออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ถ้าเป็นที่ดินที่มีอาณาเขตติดต่อคาบเกี่ยวหรืออยู่ในท้องที่เขตที่ดินของรัฐที่มีระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศหรือระวางรูปถ่ายทางอากาศ พนักงานเจ้าหน้าที่จะออกให้ได้ต่อเมื่อตรวจสอบกับระวางแผนที่
รูปถ่ายทางอากาศฉบับที่ทำขึ้นก่อนสุดเท่าที่ทางราชการมีอยู่แล้วว่า เป็นที่ดินที่สามารถออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้…” กล่าวคือ ไม่ต้องอ่านแปลภาพทุกแปลง จะอ่านแปลเฉพาะที่ดินที่มีอาณาเขตติดต่อคาบเกี่ยวหรืออยู่ในเขตที่ดินของรัฐ เท่านั้น ซึ่ง ที่ดินของรัฐ หมายถึง ที่ดินสาธารณ-สมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ที่สงวนหวงห้ามตามประมวลกฎหมายที่ดินและกฎหมายอื่น ที่ดินที่คณะรัฐมนตรีสงวนไว้เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างอื่น เช่น ที่เลี้ยงสัตว์สาธารณประโยชน์ ที่ราชพัสดุ ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยาน-แห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขตป่าไม้ถาวร เป็นต้น
ขั้นตอนการดำเนินการตามมาตรา ๕๖/๑ ฯ นั้น จึงต้องมีการตรวจสอบที่ดินกับระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ หรือระวางรูปถ่ายทางอากาศ แล้วแต่กรณี หรือการตรวจสอบด้วยวิธีอื่น ซึ่งกรมที่ดินได้กำหนดระเบียบ ว่าด้วยการตรวจสอบที่ดินเพื่อออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ กรณีเป็นที่ดินที่มีอาณาเขตติดต่อคาบเกี่ยวกับหรืออยู่ในเขตที่ดินของรัฐด้วยวิธีอื่น พ.ศ. ๒๕๕๑ ไว้ดังนี้
ข้อ ๖ ในการนำหลักฐานที่ดินเดิมมาดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ตามมาตรา ๕๘ ทวิ วรรคสอง (๑) และมาตรา ๕๙ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ดังนี้
(๑) ตรวจสอบหลักฐานที่ดินเดิมและหลักฐานทางทะเบียนที่ดินว่าผู้ขอเป็นผู้มีสิทธิในที่ดิน
/และ…
-๒-
และหลักฐานที่ดินเดิมดังกล่าวถูกต้องตรงตามหลักฐานที่ทางราชการมีอยู่หรือไม่ ประการใด โดยบันทึกการตรวจสอบไว้ในเรื่องราวด้วย
(๒) ตรวจสอบว่าที่ดินข้างเคียงทุกด้านถูกต้องตรงกับหลักฐานที่ดินเดิมที่นำมาแสดงหรือไม่ โดยตรวจสอบเบื้องต้นเกี่ยวกับระยะแนวเขตที่ดินและให้เจ้าหน้าที่บันทึกถ้อยคำเจ้าของที่ดิน เจ้าของที่ดินข้างเคียง ตลอดจนผู้ปกครองท้องที่ไว้เป็นหลักฐาน หากมีความแตกต่างหรือเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งบันทึกเหตุแห่งความแตกต่างหรือเปลี่ยนแปลงไว้ให้ชัดเจนว่าเป็นเพราะเหตุใด มีความเกี่ยวเนื่องกับที่ดินข้างเคียงตามที่แจ้งไว้ในหลักฐานเดิมอย่างไร ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเขตการปกครองในพื้นที่นั้น ให้บันทึกการเปลี่ยนแปลงให้ชัดเจนพร้อมแนบหลักฐานการเปลี่ยนแปลงเขตการปกครอง (ถ้ามี) ไว้ในเรื่องด้วย
(๓) ตรวจสอบสภาพการทำประโยชน์ว่ามีความเป็นไปได้ตรงกับที่ได้แจ้งในหลักฐานที่นำมาแสดงในการขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์หรือไม่ เช่น ในหลักฐานที่ดินเดิมแจ้งสภาพการทำประโยชน์เป็นที่นา แต่ที่ดินที่นำทำการตรวจสอบเป็นที่ป่าชายเลนซึ่งใช้ประโยชน์ในการทำนาไม่ได้ อันเป็นเหตุให้สงสัยได้ว่าที่ดินที่นำทำการตรวจสอบนั้นเป็นที่ดินไม่ตรงตามหลักฐานที่ดินเดิม เป็นต้น
(๔) กรณีที่ชื่อผู้ขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ไม่ตรงกับชื่อในหลักฐานที่ดินเดิมที่ผู้ขอนำมายื่นขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ให้สอบสวนและบันทึกถ้อยคำผู้ขอ ผู้ปกครองท้องที่และผู้ที่เชื่อถือได้ ว่ามีการครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากผู้มีชื่อในหลักฐานที่ดินเดิมอย่างไร ตั้งแต่เมื่อใด
(๕) กรณีที่มีเหตุอันสมควรสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าที่ดินที่ขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์อาจไม่ตรงกับหลักฐานที่ผู้ขอนำมาแสดง ให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสาขา เจ้าพนักงานที่ดินหัวหน้าส่วนแยก นายอำเภอ ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ หรือผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจ แล้วแต่กรณี ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการอย่างน้อย ๓ คน เพื่อพิจารณาตรวจสอบสภาพที่ดินและการครอบครองทำประโยชน์เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่า ที่ดินที่ขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นที่ดินที่ตรงตำแหน่งตามหลักฐานที่ผู้ขอนำมาแสดงหรือไม่ อย่างไร มีหลักฐานใดประกอบในการตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบแล้วให้คณะกรรมการรายงานผลต่อผู้แต่งตั้งเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการให้แก่ผู้ขอต่อไป
ข้อ ๗ หากการดำเนินการตามข้อ ๖ ยังไม่ได้ข้อยุติว่าที่ดินที่ขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตรงตามหลักฐานที่ผู้ขอนำมาแสดง และเป็นที่ดินที่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะออก
โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ ให้ดำเนินการตรวจสอบกับระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ
/หรือ…
-๓-
ระวางรูปถ่ายทางอากาศฉบับที่ทำขึ้นก่อนสุดเท่าที่ทางราชการมีอยู่ โดยตรวจสอบกับแผนที่ภาพถ่าย
ทางอากาศของกรมแผนที่ทหารว่าเป็นที่ดินที่สามารถออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้หรือไม่
สำหรับกรณีที่ดินของท่านมีเพียงหลักฐาน ภ.บ.ท. ๕ ถือว่าเป็นที่ดินที่ไม่มีหลักฐานสำหรับที่ดิน
ถ้ามีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า ท่านได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อนวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๔๙๗ และไม่เป็น
ที่ป่าไม้ , ที่ ส.ป.ก. หรือที่สงวนหวงห้ามอื่น สามารถขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะราย โดยมิได้แจ้งการครอบครอง ตามมาตรา ๕๙ ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยยื่นคำขอ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา โทร. ๐-๔๔๒๔-๒๑๕๑ , ๐-๔๔๒๔-๔๓๕๓ หรือโดยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน แต่ถ้าท่านได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินภายหลังวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๔๙๗ สามารถออกโฉนดที่ดินได้โดยการเดินสำรวจออก
โฉนดที่ดินได้เพียงวิธีเดียว ซึ่งสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัด
นครราชสีมา ซึ่งจะตั้งสถานที่ทำการเป็นการชั่วคราวในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ประมาณวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ซึ่งท่านสามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดที่ตั้งของศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน
จังหวัดนครราชสีมาได้ที่ โทร. ๐๘ – ๑๘๒๔ – ๙๕๓๗ หรือที่สำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา โทร.
๐-๔๔๒๔-๒๑๕๑ , ๐-๔๔๒๔-๔๓๕๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น