กฎหมาย ของประเทศเเต่ละจังหวัดจะใช้กฎหมายฉบับเดียวกันตามที่รัฐธรรมนูญไทยเขียนไว้ว่ารัฐไทยเป็นรัฐๆเดี่ยวจะเเบ่งเเยกไม่ได้เเต่ที่ดินจังหวัดภูเก็ตใช้กฎหมายคนละฉบับกับที่ดินทั่วประเทศ
คนจนเวลาไม่ได้รับความเป็นธรรม มันจุกอกหายใจไม่ออก เฝ้าถามตัวเองว่าเพราะเกิดมาจน จึงไม่ได้รับความเป็นธรรม
ข้าพเจ้าด้วยความน้อยเนื้อตํ่าใจในวาสนาที่ฝันว่าจะได้มีโฉนดจากที่ดินที่ทํามาหากินมาด้วยความสุจริตเเละยังอุทิศที่ผ่ากลางที่ให้เป็นทางสาธารณะด้วยใจที่เห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันข้าพเจ้ายังมีกําลังใจเพราะข้าพเจ้าเชี่อในกรรม ดีที่ทํามาตลอดเเละข้าพเจ้าเชื่อโดยสุจริตว่าที่ดินของข้าพเจ้าไม่ติดที่ป่าหรือที่รกร้าง ข้าพเจ้าจึงขอวิงวอนเเละขอถามท่านนายกว่า ทำไมถึงมีการรับรองเเนวเขตครบทุกด้านรวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งคณะกรรมการ ตามกฎกระทรวงฉบับที่43 มีมติว่า สค 1 ถูกต้อง ออกให้ผู้ขอ ได้เต็มเเปลงเเละที่ดินข้างเคียงไม่เป็นที่หลวงหวงห้ามเเต่อย่างใดและข้าพเจ้าไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ประกาศครบ30วันไม่มีผู้ใดโต้เเย้งคัดค้านเมื่อเจ้าพนักงานที่ดิน พิสูจน์ไม่ได้ว่าสค1 จดที่ว่างเปล่าทําไม.ข้าพเจ้าต้องกันระยะที่ดินออกไป5ไร่ทั้งที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทําผิด..และหากเจ้าหน้าที่ที่ดินเชื่อว่าสค1-ของข้าพเจ้าจดป่า ทําไมถึงออกประกาศ 30 วันไม่มีผู้โต้เเย้งสิทธิซึ้งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนออกโฉนด

ซึ้งตามกฎหมาย ในเมื่อข้างเคียงมิได้ใช้สิทธิ์คัดค้านนำชี้เขตหรือนำรังวัดหรือให้ถ้อยคำต่าง ๆก็ต้องพิจารณาว่ามีกฏหมายหรือระเบียบให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างไรหรือไม่ซึ่งก็คือตามนัยดังกล่าว

ระวางแผนที่เพื่อการออกโฉนดที่ดินเเปลงนี้




Item Thumbnailบั

ระวางแผนที่เพื่อการออกโฉนดที่ดินเเปลงนี้ บันทึกข้างเคียงเปลี่ยนเเปลง( ทด 16) ดูเอกสาร

ตามข้อ15(1)เเละ(2)ตามกฎกระทรวง ฉบับที่43 2537ออกตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมาลกฎหมายที่ดินพศ2497เเละข้อ6วรรคหนึ่งของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรังวัดปลักหลักหมายเขตที่ดินพศ2527


โฉนดที่ดิน สีส้ม มีถนนตรงกลางข้าพอุทิศให้เป็นทางสาธรณะ

สีฟ้า ช้างเคียงโดยรอบ ในสค1 เขียนว่า


ชึ้งใน สค 1ระบุว่า ทิศเหนือจด ที่ดินว่างเปล่า ปัจุบัน ข้อเท็จจริง ได้ออก นส 3 ก

ใน สค 1ระบุ ทิศใต้จด ที่ดินว่างเปล่า ปัจุบัน ข้อเท็จจริง ที่ครอบครอง นาย รัตน์ ดูเอกสาร

ใน สค 1ระบุ ทิศตะวันออก จด ที่ดินนายไข่ ไชยศรี

ปัจุบัน ข้อเท็จจริง จด ที่ดินนายไข่ ไชยศรี

ใน สค 1ทิศตะวันตกจด ที่ดินว่างเปล่า ปัจุบัน ข้อเท็จจริง ที่ครอบครอง นางพรวิไล


ขั้นตอนการออกโฉนดที่ดินเฉพาะราย

1. รับบัตรคิวจากประชาสัมพันธ์
2.ชี้ระวางแผนที่
3. รับคำขอ สอบสวน ชำระเงินค่าธรรมเนียม
4. ฝ่ายรังวัดดำเนินการ นัดทำการรังวัด กำหนดตัวช่างรังวัด
5. ค้นหารายชื่อเจ้าของที่ดินข้างเคียง และพิมพ์หมายข้างเคียง

6. รับหมายแจ้งเจ้าของที่ดินข้างเคียง วางเงินมัดจำรังวัดรับหลักเขตที่ดิน

ข้างเคียงลงชื่อรับรองเเนวเขตครบทุกด้านถูกต้องดูเอกสาร รับรองสําเนาถูกต้องโดยที่ดิน

7. ช่างรังวัดออกไปทำการรังวัด พิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ที่ดิน

8. คำนวณเนื้อที่ และเขียนรูปแผนที่โฉนดที่ดิน
9. เจ้าพนักงานที่ดินประกาศการแจกโฉนดที่ดิน 30 วัน

ประกาศครบ30วัน ไม่มีผู้ใดโต้เเย้งคัดค้าน

10. ประกาศแจกที่ดินให้ปิดในที่เปิดเผย ณ สำนักงานที่ดินท้องที่ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ หรือที่ว่าการกิ่งอำเภอท้องที่ ที่ทำการแขวงหรือที่ทำการกำนันท้องที่และในบริเวณที่ดินนั้นแห่งละหนึ่งฉบับ ในเขตเทศบาลให้ปิดไว้ ณ สำนักงานเทศบาลอีกหนึ่งฉบับ

ประกาศครบ30วัน ไม่มีผู้ใดโต้เเย้งคัดค้าน

11. เสนอเรื่องขออนุมัติผู้ว่าราชการจังหวัด กรณีขอออกโฉนดที่ดินโดยมิได้แจ้งการครอบครองหรือกรณีเนื้อที่เกิน 50 ไร่ ตามมาตรา 59 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

ที่เเปลงนี้มีสค1
12. ส่งเรื่องให้คณะกรรมการตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 ตรวจสอบกรณีที่ดินอยู่ในเขตป่าไม้

คณะกรรมการตามกฎกระทรวงฉบับที่43 สค 1 ถูกต้อง ออกให้ผู้ขอ ได้เต็มเเปลง ดูเอกสาร

-ป่าไม้รับรองไม่ติดอยู่ในเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ดูเอกสาร ทั้งนี้ ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงในหนังสือดังกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้หรือผู้ใดโต้แย้งสิทธิในที่ดินถ้าข้อเท็จจริงจดป่าป่าไม้ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดน157เพราะไม่โต้เเย้งสิทธิเเละเป็นหนึ่งในคณะ-

กรรมการตามกฎกระทรวงตามกฎ43ที่ลงมติรับรองที่เเปลงนี้

ที่ดินว่างเปล่าทางทิศ เหนือ ทิศใต้ เเละทิศตะวันตกซึ้งปรากฎในสค1 เเปลงนี้ ได้รับการรับรองจากผู้ปกครองท้องที่เเล้วว่าไม่เป็นที่ห่วงห้ามประเภทใดทั้งสิ้น

-มีการปักหมุดเขตเเน่นอนเเล้ว


13. เสนอเจ้าพนักงานที่ดินลงนามออกโฉนดที่ดินให้แก่ผู้ขอและแจ้งเจ้าของที่ดินมารับโฉนด

เเต่กลับออกคําสั่งให้กับผู้ขอ

"ห้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนด" โดยอ้างเหตุ

สค1 จดที่รกร้างว่างเปล่าก็ต้องถือระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 10 ในกรณีที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่าเเละระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฎในหลักฐานเเจ้งการครอบครองให้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนด

คําสั่งข้างตีนนี้ ถ้าผู้ปฎิบัติที่มีหน้าที่ต้องเข้าใจถึงขั้นตอนเเละระเบียบปฎิบัติของกฎหมายว่าอยู่ในขั้นตอนใหน ซึ้งเป็นขั้นตอนที่ปฎิบัติตามหน้าที่ตามที่กรมที่ดินใช้มานานเเล้วไม่ใช้ระเบียบใหม่ซึ้งกรมที่ดินได้ออกระเบียบลดขั้นตอนเพื่อให้ข้าราชการของกรมที่ดินได้บริการประชาชนให้ได้รับความสะดวกกรมคงเห็นว่า ขั้นตอนที่มีอยู่นั้นท็าให้การปฏิบัคิหน้าที่งานล่าช้า เเต่ก็เกิดคําถาม ว่ากรมที่ดินสํานักมาตราฐาน มีต๋าตอบให้ประชาชนว่าเเนวทางใหนที่ใช้ในการปฏิบัติงานที่ใช้กัน


ระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน พ.ศ. 2542 และประกาศกรมที่ดินเรื่องการลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน ลงวันที่ 15 กันยายน 2547

ระเบียบกรมที่ดินว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน พ.ศ. 2542 ออกโดยอาศัยอำนาจตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชนของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2532 ซึ่งปัจจุบันระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีบางฉบับ พ.ศ. 2546 เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2546 ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติในการประชุม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2546 ให้ส่วนราชการดำเนินการลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติราชการ เพื่อประชาชนลง 30-50% จากที่กำหนดไว้ในปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อเป็นการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2546 และสอดคล้องตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 กรมที่ดินจึงได้ออกประกาศกรมที่ดิน เรื่อง การลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2547 เพื่อปรับปรุงวิธีการปฏิบัติงาน และให้บริการของกรมที่ดินมีความสะดวก รวดเร็ว และตอบสนองความต้องการของประชาชน สำหรับรายละเอียดของระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการปฏิบัติราชการ เพื่อประชาชน พ.ศ. 2542 ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และประกาศกรมที่ดิน เรื่อง การลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติราชการ เพื่อประชาชนเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2547

ตอบโดย ศูนย์ส่งเสริมประสิทธิภาพกรมที่ดิน ราชการบริหารส่วนกลาง

14. แจกโฉนดที่ดินให้ผู้ขอ

ขั้นตอนสุดท้ายข้อ14ประชาชนจึงไม่ต้องการมาออกโฉนดกันโดยความจริงใครบ้างไม่ต้องการออกโฉนด




---------------------------------------------------------------


นายกฯประกาศเชิญชวนประชาชนทุกคนทุกฝ่าย

ร่วมเดินหน้าปฏิรูประเทศไทย" ย้ำรับฟังทุกเสียง-ทุกความคิด


วันนี้ประเทศไทยต้องเดินหน้า แต่ความโกรธ ความเคียดแค้นและความชิงชัง ไม่สามารถสร้างอนาคตให้ประเทศไทยและลูกหลานไทยได้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะปรองดองเพื่อปฏิรูปประเทศไทย รวมใจเป็นหนึ่งเพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติ สร้างความเสมอภาค สื่อสารถึงกันอย่างสร้างสรรค์ ค้นหาและยอมรับความจริง โดยมีการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย มีประสิทธิภาพและโปร่งใส


เรียนท่านนายกรัฐมนตรี


เรี่อง ขอความเป็นธรรม

ข้าพเจ้านําสค1ที่ระบุระยะจดที่รกร้างว่างเปล่าทั้ง3ด้านเเละถ้าข้อเท็จจริง จดป่าหรือที่ว่างเปล่าจริงตามที่ทางที่ดินจังหวัดม ีหนังสือถึงข้าพเจ้า

โดยมีใจความว่า

"ฝ่ายทะเบียนพิจรณาเเล้ว กรณึสค1 มีข้างเคียงด้านหนี่งด้านใด หรือหลายด้านจดป่าหรือจดที่ดินรกร้างว่างเปล่า โดยใช้ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่12พศ (2532)ข้อ10 ได้กําหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินให้ตามระยะที่ปรากฎในสค1เท่านั้น "เอกสารประกอบ


การที่ข้าพเจ้าได้ขอออกโฉนดโดยอาศัยหลักฐาน สค 1 ถ้าปรากฏว่าเนื้อที่ที่ทำการรังวัดใหม่แตกต่างไปจากเนื้อที่ตามใบแจ้งการครอบครอง (สค1) จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน (. 2497) มาตรา ๕๙ ตรี ในการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ถ้าปรากฏว่าเนื้อที่ที่ทำการรังวัดใหม่แตกต่างไปจากเนื้อที่ตามใบแจ้งการครอบครองตามมาตรา แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน ..๒๔๙๗ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้ได้เท่าจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์ ทั้งนี้ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด รวมถึง


ข้าพเจ้าด้วยความน้อยเนื้อตํ่าใจในวาสนาที่ฝันว่าจะได้มีโฉนดจากที่ดินที่ทํามาหากินมาด้วยความสุตริตเเละยังอุทิศที่ผ่ากลางที่ให้เป็นทางสาธารณะด้วยใจที่เห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันข้าพเจ้ายังมีกําลังใจเพราะข้าพเจ้าเชี่อในกรรม ดีที่ทํามาตลอด

เเละข้าพเจ้าเชื่อโดยสุจริตว่าที่ดินของข้าพเจ้าไม่ติดที่ป่าหรือที่รกร้าง ข้าพเจ้าจึงขอวิงวอนเเละขอถามท่านนายกว่า ทำไมถึงมีการรับรองเเนวเขตครบทุกด้านรวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งคณะกรรมการ ตามกฎกระทรวงฉบับที่43 มีมติว่า สค 1 ถูกต้อง ออกให้ผู้ขอ ได้เต็มเเปลงเเละที่ดินข้างเคียงไม่เป็นที่หลวงหวงห้ามเเต่อย่างใด และข้าพเจ้าไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ประกาศครบ30วัน ไม่มีผู้ใดโต้เเย้งคัดค้านเมื่อเจ้าพนักงานที่ดิน พิสูจน์ไม่ได้ว่าสค1 จดที่ว่างเปล่าทําไม.ข้าพเจ้าต้องกันระยะที่ดินออกไป5ไร่ทั้งที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทําผิด..และหากเจ้าหน้าที่ที่ดินเชื่อว่าสค1-ของข้าพเจ้าจดป่า ทําไมถึงออกประกาศ 30 วันไม่มีผู้โต้เเย้งสิทธิซึ้งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนออกโฉนดที่ิ ดินเเละที่สําคัญ ก็ต้องเเจ้งความดําเนินคดีกับ คณะกรรมการตามกฎกระทรวงฉบับที่43 ที่ีมีต้วเเทนที่ดินจังหวัด ร่วมอยู่ด้วย ในข้อหา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เเ ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ (ม 157)เพราะที่ดินเชื่อว่าสค1เเปลงนี้จดที่ว่างเปล่าช้าพเจ้าไม่ต้องการเอาผิดกับใครเพราะทุกคนก็มีครอบครัวที่ต้องดูเเลเเต่ไม่อยากให้คนอื่นๆต้องมาเจอปัญหาเช่นนี้คนจนเวลาไม่ได้รับความเป็นธรรม มันจุกอกหายใจไม่ออก เฝ้าถามตัวเองว่าเพราะเกืดมาจน จึงไม่ได้รับความเป็นธรรมเห็นชัดว่าถูกเเต่ทําอะไรไม่ได้ หรือว่านี้คือปัญหาที่ได้ยินตามวิทยุว่า

ปฏิรูปประเทศไทยร่วมกันเเก้ไขจะได้ปฏิบัติเป็นมาตราฐานเดียวกัน


ด้วยความเคารพอย่างสูง

จรัญ หนูพู่

ขอความเป็นธรรมขั้นพี้นฐาน





ตามระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2532) ว่าด้วยเงื่อนไขการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หมวด 2 ข้อ 10. บัญญัติไว้ว่า "ในกรณีที่ที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า และระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฏในหลักฐานการแจ้งการครอบครอง ให้ถือระยะที่ปรากฏในหลักฐานการแจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนดหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์"

ส่วนข้อ 8. วรรคสองบัญญัติไว้ว่า "ในกรณีที่ระยะของแนวเขตที่ดินผิดพลาดคลาดเคลื่อน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เท่าจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้ว เมื่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้ลงชื่อรับรองแนวเขตไว้เป็นการถู

ประชาชนจึงมีคําถาม


"ห้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนด" โดยอ้างเหตุ

สค1 จดที่รกร้างว่างเปล่าก็ต้องถือระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 10 ในกรณีที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่าเเละระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฎในหลักฐานเเจ้งการครอบครองให้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนด ถือว่าเจ้าหน้าที่ ดำเนินการรังวัดออก โฉนด. โดยมิชอบ

เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องถูกลงโทษทางวินัยและอาญาเมื่อดูแล้ว ไม่ปรากฎว่ามีประเด็นว่าเป็นที่หลวงหวงห้าม แต่เป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า ประชาชนย่อมมีสิทธิ์เข้าไปครอบครองโดยเปิดเผยครับแม้ที่ว่างเปล่าได้สละการครอบครอง ผู้ครอบครองต่อมาย่อมได้รับ"สิทธิ์ครอบครอง"แล้วตามประมวลกฎหมายแพ่ง และสามารถนำที่ดินนั้นไปขอออกโฉนด โดยมิได้แจ้งการครอบครองได้เพราะไม่ใช่ที่หลวงหวงห้าม ซึ่งเป็นข้อห้ามการออกโฉนดตามประมวลกฎหมายที่ดินการพยายามบอกกับสังคมว่าเป็นที่หลวงต้องเอาคืน ไม่มีตรงไหนที่บอกว่า เป็นที่หลวง....มันเป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบซึ่งมีหลากหลายสาเหตุแต่ที่ดินที่เข้าไปทำประโยชน์นั้น หากเป็นคนไทยเข้าไปทำประโยชน์โดยเปิดเผยต่อเนื่อง ย่อมได้สิทธิ์ครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งฯอยู่แล้วการออกเอกสารสิทธิ์ให้เป็นเพียงเป็นการรับรองโดยทางราชการเท่านั้นเองคนเรียนกฎหมายย่อมซึมซับเรื่องสิทธิ์ในที่ดินและเอกสารสิทธิ์ เค้ารู้ว่ามันเป็นคนละเรื่องส่วนเจ้าของในปัจจุบันได้สิทธิ์นั้นโดยการครอบครองแล้วครับเพราะได้สิทธิ์ในที่ดินด้วยการเข้าทประโยชน์แล้วออกโฉนดได้ ไม่มีปัญหา...เป็นโฉนดใหม่นะครับ...( แต่จะเป็นโฉนดหลังแดง ห้ามโอน ห้ามซื้อขายภายใน 10 ปี เพราะไม่ได้แจ้งการครอบครอง )หากมีการเดินสำรวจทั้งตำบล ก็ขอออกโฉนดได้ นำทำการรังวัดได้เลยหากไม่มีการเดินสำรวจทั้งตำบล สามารถรอขอออกใบจอง แล้วนำใบจองไปขอออกโฉนดเฉพาะรายที่สำนักงานที่ดินโฉนดเก่า หรือ นส. 3 . เก่า ก็ยกเลิกไปเรื่องเอกสารสิทธิ์ กับสิทธิครอบครอง เป็นคนละเรื่องกันก่อนออกโฉนดใหม่หลังจากทำการสอบสวนและทำการรังวัดใหม่แล้ว ต้องปิดประกาศ 30 วัน หากไม่มีผู้คัดค้าน ก็ออกได้เลยหากมีผู้ร้องค้าน ก็จะเป็นเรื่องที่เจ้าพนักงานที่ดินเรียกทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยที่สำนักงานที่ดินหากตกลงกันได้ก็จบ ออกโฉนดได้ หากเจ้าพนักงานที่ดินเห็นว่าผู้ร้องค้านไม่มีเหตุผลเพียงพอ ก็สั่งออกโฉนดได้ ( เป็นดุลพินิจของเจ้าพนักงานที่ดิน )กรณีนี้หากผู้ร้องคัดค้านเห็นว่าเป็นการออกโฉนดโดยมิชอบ ก็ไปร้องต่อศาลเอาเอง
กรณีที่ 2 หากผู้ร้องคัดค้านไม่ยินยอม เจ้าพนักงานที่ดินเห็นตามผู้ร้องคัดค้าน ก็จะไม่ออกโฉนดให้ ( เป็นดุลพินิจของเจ้าพนักงานที่ดินเช่นกัน )ผู้ขอออกโฉนดก็นำเรื่องร้องต่อศาล...สุดท้ายศาลจะเป็นผู้พิจารณาว่าที่ดินดังกล่าว สามารถออกโฉนดให้แก่ผู้ร้องได้หรือไม่ท้ายที่สุดเรื่องจะไปจบลงที่ศาลทั้งนั้น หากเป็นไปตามนี้..เพราะมิใช่ กันระยะโดยเหตุ"ทับที่หลวง" แต่เป็นเรื่องออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบซึ่งยังคงมีที่ดินบางแปลงมีกรณีพิพาทกันอยู่เจ้าหน้าที่ จะเป็นฝ่ายเสียหายซะเองยิ่งมาตอกย้ำว่า...สค1 จดที่รกร้างว่างเปล่า ต้องกันระยะ


ซึ้งตามกฎหมาย ในเมื่อข้างเคียงมิได้ใช้สิทธิ์คัดค้านนำชี้เขตหรือนำรังวัดหรือให้ถ้อยคำต่าง ก็ต้องพิจารณาว่ามีกฏหมายหรือระเบียบให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างไรหรือไม่ซึ่งก็คือตามนัยดังกล่าว


กรณีปัญหาที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ เเต่เเนวทางปฎิบัติเเตกต่างจากจังหวัดภูเก็ต

ด้านนายจำลอง โพธิ์เพชร หัวหน้าสำนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย เปิดเผยว่า ที่ดินงอกกับที่ดินเพิ่มไม่เหมือนกัน ข้อเท็จจริงเป็นการเพิ่มจากการรังวัดตามแนวเขตที่ดิน ซึ่งตามแนวเขตในหนังสือส..1 ได้แสดงลักษณะผังที่ดินประกอบไว้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่การรังวัดเป็นโฉนดที่ดินต้องใช้วิธีการตรรกะ (การคำนวณกราฟ) ปักหมุดตามหลักเขต ฉะนั้นรูปที่ดินในโฉนดที่ออกมาจะเปลี่ยนไปตามแนวที่วัดได้และส่วนที่เพิ่มมา ต้องเป็นไปตามเขตที่ดินดังกล่าว

นายจำลองกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่การรังวัดโฉนดเป็นไปได้ทั้งเนื้อที่ลดหรือเพิ่มขึ้นจากเดิม แต่ต้องเป็นไปตามการรังวัดของเจ้าหน้าที่ และต้องได้รับคำยินยอมจากเจ้าของที่ดินข้างเคียงเซ็นชื่อรับทราบยอมรับในแนวเขตดังกล่าว อย่าลืมว่าที่ดินบนเกาะสมุยมีราคาแพงคงไม่มีใครยอมให้คนอื่นมาบุกรุกกินเนื้อที่ของตนไปแน่ และหากเจ้าของที่ข้างเคียงไม่ยอมเซ็นชื่อก็ออกโฉนดให้ผู้ขอไม่ได้


สื่อมวลชลให้ความสนใจในเรื่ิองนี้

ละเอียดข่าว


กาขาว [ 13 ]


หนังสือพิมพ์เสียงใต้รายวัน ประจำวันที่ 16 มิถุนายน ..2553... ขอเชิญชวนพสกนิกรร่วมกันแสดงถึงความจงรักภักดีและลงนามถวายพระพร...

สำรวจตัวเลขยื่นคำร้องขอกรรมสิทธิ์ที่ดินบนเกาะภูเก็ต 1,400 ราย ที่ออกเอกสารไม่ได้ เป็นปัญหาโลกแตกสำหรับเกาะภูเก็ตหลายมาตรฐาน อย่างที่มท.3” ถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ชี้ว่าเป็นปัญหาที่ลาดชัน-ควนเขา”...z กฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 43”ให้อำนาจผู้ว่าฯแต่งตั้งคณะกรรมการประกอบด้วย ที่ดิน, ป่าไม้, นายอำเภอ, พัฒนาการที่ดิน และผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันตรวจสอบที่ดินที่มีปัญหา และการครอบครองก่อน ..2497 โดยเฉพาะ..1”...z ขั้นตอนนี้กรมที่ดินได้ประกาศให้ราษฎรที่ครอบครองขอออกโฉนดปัญหาที่จะถกเป็นประเด็นว่า..1”ที่ดินที่ครอบครองน้อยกว่าเป็นจริง เพราะการเลี่ยงภาษี”...z นี่เป็นประเด็นหนึ่งของการคอร์รัปชันคือ การต่อรองอามิสสินจ้างหรือขอส่วนแบ่งส่วนที่เกินในหลายรูปแบบ ความง่ายกลายเป็นยาก หรือความยากชาวบ้านขี้เกียจรำคาญกำขี่ดีกว่ากำตดเป็นเรื่องง่าย...z พูดถึงคณะกรรมการที่ผู้ว่าฯแต่งตั้ง ถือว่าร่วมฟันธงที่ดินแปลงไหนถูกหรือบุกรุกในเขตป่าสงวนแห่งชาติและที่ดินสาธารณะ เสนอรายงานต่อผู้ว่าฯมิใช่ว่าการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวอคติเมื่อติดเขตที่ดินของใคร เซ็นรับรองแนวเขตหรือติดเขตป่าฯ ติดประกาศ 30 วัน ใครค้านแย้งได้...z ที่เกิดขึ้นที่ดินเห็นแย้งป่าไม้ไม่มีปัญหา นายอำเภอและผู้ใหญ่บ้าน เห็นพ้อง แต่เป็นว่าการเสนอความเห็นส่วนตัวขัดต่อความเป็นจริง นี่ก็ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานเออ...เวรจงระงับด้วยการไม่จองเวร ชาวบ้านตาดำๆมีสิทธิ์ไหมครับ เอวังด้วยประการฉะนี้...z โฉนดบินเพราะโจรในเครื่องแบบร่วมมือกันโกงสมบัติชาติไม่อยากจะพูดมาก หรือไปสอนสังฆราชกฎกระทรวง .43” หากเกิดการขัดแย้ง ขอให้ผู้ตรวจกรม-กระทรวง-สำนักนายกรัฐมนตรีลงมาร่วมตรวจสอบ เชื่อว่า 1,400 แปลง ขุดหาความจริงได้...z ย้ายกลับมาใหญ่ นิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าฯภูเก็ตคนใหม่ (อดีตปลัดจังหวัด) คนภูเก็ต สับเปลี่ยนเก้าอี้กับ สมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย ย้ายไปเป็น รองผู้ว่าฯสุโขทัย ยินดีด้วย...z สนง. เขตพื้นที่การศึกษาภูเก็ต ถนัด ขวัญนิมิต ผู้อำนวยการ ย้ายไปเป็น ผอ.ฯเขต 2 พัทลุง ยกเก้าอี้ให้ ประไพ รัตนไพจิต ผอ.ฯร้อยเอ็ด คนเมืองคอนมานั่งแทน เพื่อรอเกษียณอายุ โชคดีเช่นกัน...z สนง.เหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต จัดฝึกอบรมผู้ประสานงานการจัดหาบริการโลหิต คน RH (เลือดลบ) ระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน ศกนี้ 2 วัน ที่โรงแรมเพิร์ลและโรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน.............

กาขาว

วันที่ : 15 มิ. 2553

ข้อมูล นสพ เสียงใต้

ภาพขนาดย่อของรายการ

กรณีที่ดินจังหวัดสุราษฎร์,พังงา,กระบี่,เลย เเนวทางปฎิบัติเเตกต่างจากจังหวัดภูเก็ต

การดำเนินการในการออกโฉนดที่ดิน กรณีเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามโครงการเร่งรัดออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ หากกระบวนการในการรังวัดถูกต้อง ครบถ้วน ก็สามารถแจกโฉนดได้ภายในระยะเวลาของโครงการฯ แต่หากมีปัญหาในการดำเนินการของขั้นตอนการรังวัด เช่น การรับรองแนวเขตไม่ครบถ้วน ก็จะต้องส่งเรื่องราวให้สำนักงานที่ดินท้องที่ดำเนินการต่อ โดยต้องนัดรังวัดตรวจสอบใหม่ เพื่อแจ้งให้ข้างเคียงที่ดินที่ไม่ได้รับรองแนวเขตมาระวังชี้แนวเขต ถ้าหากการดำเนินการในส่วนต่าง ดังกล่าวครบถ้วนแล้ว ก็สามารถออกโฉนดได้โดยเร็ว

ตอบโดย สำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา

ฝ่ายอํานวยการสํานักงานที่ดินจังหวัดกระบี่, พังงา เเละ กว จังหวัดเลย จังหวัด สุราษฎร์ ใช้ข้อเท็จจริง ต่างจากภูเก็ตยึดระยะตามสค1เป์นหลักไม่ใช้ข้อเท็จจริงที่เป็นปัจุบันผมเลยไม่เข้าใจเเต่ถ้าเป็นเเนวทางปฎิบัติเดียวกันประชาชนก็จะลดภาระไม่ต้องขึ้นศาลปกครองเพราะจะไม่มีความคิดว่าจังหวัดอื่นออกให้ครบเเต่จังหวัดเราถูกตัดระยะเลยตัองไปศาลปกครองเพราะที่ดินจังหวัดเเจ้งว่าเป็นคําสั่งทางปกครองให้ไปฟ้องศาลปกครองเลยคิดในใจนี่เราอยู่กับเพี่อนคนละรัฐเหมือนในอเมริการึเปล่าเพราะกฎหมายใชัคนละฉบับที่รู้มารัฐไทยเป็นรัฐเดี่ยวเเบ่งเเยกไม่ได้



---------------------------------------------------------------

------------------------------------------------------------


ปปช



กรณ๊ที่ที่ดินตั้งอยู่ในเขตป่าหรือคาบเกี่ยวเขตป่าไม้ ในชั้นออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ..3. ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นไปตรวจสอบแล้วและคณะกรรมการมีความเห็นว่าควรออก ..3.ให้ผู้ขอได้แล้ว ต่อมาผู้ขอได้นำหลักฐาน ..3.ฉบับนั้นมาขอออกโฉนดที่ดิน จำเป็นจะต้องตั้งคณะกรรมการฯขึ้นไปทำการตรวจพิสูจน์อีกหรือไม่ อย่างไร


คณะกรรมการ ... พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของ นายสมนึก ไพบูลย์ เป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ และเป็นความผิดทางอาญา ฐานเป็น เจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการ ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และมาตรา 157 จึงมีมติให้ส่ง รายงาน เอกสารและความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาและอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการทางวินัยและ ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาเป็นคดีอาญาต่อศาล ต่อไป




ถ้ามาดูที่เเปลงนี้


กรณีกรณ๊ที่ที่ดินตั้งอยู่ในเขตป่าหรือคาบเกี่ยวเขตป่าไม้ ในชั้นออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นไปตรวจสอบแล้วและคณะกรรมการมีความเห็นว่าควรออก โฉนด.ให้ผู้ขอได้แล้ว ต่อมาที่ิดินจังหวัดภูเก็ตได้เสนอความเห็นโดยไม่ใช้มติของคณะกรรมการตามกฎกระทรวงฉบับที่43 เสนอผู้ว่าซึ้งเป็นขั้นตอนที่ถูกต้อง 1 ใน5 ของคณะกรรมการมีที่ดินจังหวัดเป็นคณะกรรมการร่วมอยู่ด้วย ถ้าคณะกรรมการรับรองเเต่เจ้าที่ดินไม่รับรอง ดูเเล้วไม่ปฎิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย เป็นความผิดทางวินัยเเละใข้อํานาจโดยมิชอบ







ในฐานะเป็นคนไทยขอเป็นกําลังใจให้นายกทวงคืนเเผ่นดินไทยกลับมาในเร็ววัน

วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2553

จรรยาที่ดิน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

จรรยาที่ดิน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์




จรรยาที่ดิน


สัปดาห์ที่แล้วนำเสนอ จรรยานักการทูต ของกระทรวงการต่างประเทศ มาวันนี้มี จรรยาข้าราชการกรมที่ดิน ซึ่งเพิ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2552

โดย นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน ได้ออกข้อบังคับกรมที่ดินว่าด้วยจรรยาข้าราชการกรมที่ดิน ..2552 มาบังคับใช้

ในข้อบังคับดังกล่าวมีการกล่าวนำว่าในกรมที่ดินมีภารกิจในการคุ้มครองสิทธิในที่ดินของประชาชน และจัดการที่ดินของรัฐ โดยการออกหนังสือแสดงสิทธิ และให้บริการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ การรังวัดแบ่งแยก สอบเขต รวมโฉนดที่ดิน เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงในการถือครองที่ดิน และได้รับบริการที่ดีมีประสิทธิภาพ

ตลอดจนการรังวัดออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง และการพิจารณาอนุญาต อนุมัติ ให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ประชาชนเลิกใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้ว เพื่อให้การบริหารจัดการที่ดินของรัฐมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด

จึงสมควรกำหนดข้อบังคับว่าด้วยจรรยาข้าราชการกรมที่ดิน เพื่อเป็นการเสริมสร้างจิตสำนึกที่ถูกต้องของข้าราชการกรมที่ดินในการปฏิบัติหน้าที่ดังนี้

ข้อ 1 ยึดมั่นและยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดมั่นในความถูกต้อง เที่ยงธรรม รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ หน่วยงาน และส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตน

ข้อ 2 ซื่อสัตย์ สุจริต รับผิดชอบ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ พากเพียร และตระหนักในหน้าที่ความรับผิดชอบ

ข้อ 3 โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส พร้อมรับการตรวจสอบ

ข้อ 4 ไม่เลือกปฏิบัติ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสมอภาคเป็นธรรมและปราศจากอคติ

ข้อ 5 มุ่งผลสัมฤทธิ์ ปฏิบัติหน้าที่เสร็จสมบูรณ์ภายในเวลาที่กำหนด ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมาย คุ้มค่า ด้วยวิธีการที่ถูกต้องชอบธรรม เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ประชาชน และหน่วยงาน โดยใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและเหมาะสม

ข้อ 6 มีจิตบริการ ปฏิบัติหน้าที่ให้ผู้รับบริการได้รับความสะดวก รวดเร็ว ด้วยความมีอัธยาศัยไมตรี

ข้อ 7 ดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดำเนินชีวิตบนทางสายกลางโดยยึดหลักความพอประมาณ ความมีเหตุผลและการมีภูมิคุ้มกันที่ดีภายใต้เงื่อนไขความรู้และคุณธรรม

ข้อ 8 รักศักดิ์ศรีของตนเองและเกียรติภูมิขององค์กร ประพฤติปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการที่ดี เสริมสร้างภาพลักษณ์ของกรมที่ดินให้เป็นที่เชื่อถือ ศรัทธา และไว้วางใจของประชาชน

ทั้งนี้ ให้ข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานราชการ ปฏิบัติตามจรรยาข้าราชการดังกล่าวข้างต้นโดยเคร่งครัด

ต้องชมการยกร่างจรรยาข้าราชการกรมที่ดินว่าทำไปด้วยความชัดเจนและง่ายแก่การจดจำคือมี 8 ข้อที่เกี่ยวกับจรรยาทั้งสิ้น.

"ซี.12"

วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2553

ส่งผู้ตรวจ

ประชาชนคนไทยภายใต้พระบารมีของพระมหากษัติย์ไทย

  •     เรียนผู้ตรวจการกรมที่ดิน,รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยถาวร เเสนเนียม , ปลัดกระทรวงมหาดไทย,อธิบดีกรมที่ดิน ,หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

    ข้าพเจ้านําสค1ไปออกโฉนด (เนื้อที่ในสค1)
    ในสค1 ทิศเหนือจด ที่ดินว่างเปล่า
    ทิศใต้จด ที่ดินว่างเปล่า
    ทฺศตะวันออกจดนาย ไข่ ไชยศรี
    ทิศตะวันตกจด ที่ดินว่างเปล่า

    ปัจุบันตาม (ข้อเท็จจริง) ช่างรังวัดได้รังวัดโดยเจ้าของที่ดินเเละเจ้าของที่ดินข้างเคียงบันทึกใน ทด16 บันทึกข้างเคียงเปลี่ยนเเปลง
    ทิศเหนือจด นส3ก เลขที่560
    ทิศใต้จด ที่มีการครอบครอง นายรัตน์ หลักบ้าน
    ทิศตะวันออกจด โฉนดเลขที่46888
    ทิศตะวันตกจด ที่มีการครอบครอง นาววิลัย คมกฤต
    มีการรับรองเเนวเขตทุกด้าน
    เนื้อที่ในสค1มีเนื้อที่ 7 ไร่
    ช่างรังวัดใหม่ได้ 12ไร่ 1งาน22ตารางวา ตามที่ได้ครอบครองเเละทําประโยชน์อยู่จริง
    สํานักงานที่ดินได้ออกประกาศครบ30วันไม่มีผู้ใดโต้เเย้งคัดค้านสิทธิในที่ดินเเต่อย่างใด
    เเละ คณะกรรมการตามกฏกระทรวง43(พศ2537) ได้ออกพิสูจน์เเล้ว สภาพที่ดินเป็นควนเขา ท๋าสวนผสม ปลูกทุเรียน สะตอ เดิมที่ดินเป็นสวนยางพารา ที่ดินอยู่นอกเขตป่าถาวร อยู่คาบเกี่ยวป่าสงวนเเห่งชาติ ป่าเขานาคเกิด ตณะกรรมการมีความเห็นว่าควรออกโฉนดให้ผู้ขอได้ทั้งเเปลง

    หลังจากนั้น มีหนังสือจากที่ดิน จังหวัดภูเก็ต


    มีความเห็นว่า ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 10 กําหนดให้ที่ดินด้านหนึ่งด้านใดจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่าเปล่าเเละระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฎในหลักฐานเเจ้งการตรอบครองให้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินรายนี้ผู้ขอได้นําการรังวัดเกินระยะในสคมากเเละเดิมสคเเจ้งจดที่รกร้างว่างเปล่าถึงด้านตือด้านทิศเหนือ ทิศใต้ เเละทฺศตะวันตก จึงเป็นเหตุให้เนื้อที่เกินหลักฐานสค1เดิมมากด้วยเเละผู้ขอไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่รังวัดกันระยะตามสค1 ฉะนั้น เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่พศจึงเห็นควรกันระยะตามสค1 เเละเเจ้งให้ผู้ขอทราบ เพื่อให้โอกาศอุธรณ์คําสั่งต่อไป

    จึงเกิดคําถามว่าเเนวทางปฏิบัติว่าการออกโฉนดว่าจะยึดเนื้อที่ตามสค1 หรือ ข้อเท็จจริง เพื่อเป็นเเนวทางในการปฏิบัติ
    ถ้ายึดตามสค1 ข้าพเจ้าได้เนื้อที่7ไร่
    ถ้ายึดตามข้อเท็จจริงข้าพเจ้าได้12ไร่1งาน22ตารางวา มีเพื่อนข้าพเจ้าชึ้งเป็นชาวสวนพูดว่าข้ามีสค1ไม่ต้องไปออกโฉนดให้ยุ่งยาก ข้าพเจ้าถามว่าทําไมคิดอย่างนั้น เพื่อนตอบว่า ก็ที่ดินเขายืดตามสค1 ไงเพื่อน ข้าพเจ้าเลยถึงบางอ้อ

    กฎหมายที่ดินที่ข้าพเจ้าค้นหาเเละมิตรสหายบอกมา

    พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 หมวด 5 การรังวัดที่ดิน
    มาตรา 69 ทวิ /2 ผู้มีสิทธิในที่ดินประสงค์จะขอสอบเขตโฉนดที่ดินเฉพาะรายของตนให้ยื่นคำขอพร้อมด้วยโฉนดที่ดินนั้นต่อเจ้าพนักงานที่ดินและให้พนักงานเจ้าหน้าที่ไปทำการรังวัดให้
    ในการรังวัด ถ้าปรากฏว่าการครอบครองไม่ตรงกับแผนที่หรือเนื้อที่ในโฉนดที่ดิน เมื่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้รับรองแนวเขตแล้ว ให้เจ้าพนักงานที่ดินมีอำนาจแก้ไขแผนที่หรือเนื้อที่ให้ตรงกับความเป็นจริงได้ เว้นแต่จะเป็นการสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย
    ในกรณีที่ไม่อาจติดต่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงให้มาระวังแนวเขตได้ หรือในกรณีที่ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้รับการติดต่อจากพนักงานเจ้าหน้าที่ให้มาระวังแนวเขตแล้วแต่ไม่มา หรือมาแต่ไม่ยอมลงชื่อรับรองแนวเขตโดยไม่ได้คัดค้านการรังวัด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้นั้นมาลงชื่อรับรองแนวเขตหรือคัดค้านภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้ส่งหนังสือ ถ้าผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงไม่ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดภายในกำหนดดังกล่าว และผู้ขอได้ให้คำรับรองว่ามิได้นำทำการรังวัดรุกล้ำที่ดินข้างเคียงและยินยอมให้แก้ไขแผนที่หรือเนื้อที่ให้ตรงกับความเป็นจริงให้เจ้าพนักงานที่ดินดำเนินการตามวรรคสองไปได้โดยไม่ต้องมีการรับรองแนวเขต
    การติดต่อหรือการแจ้งผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงตามวรรคสาม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง /3
    หากปรากฎว่ามีผู้คัดค้าน ให้เจ้าพนักงานที่ดินมีอำนาจสอบสวนไกล่เกลี่ยโดยถือหลักฐาน แผนที่เป็นหลักในการพิจารณา ถ้าตกลงกันได้ก็ให้ดำเนินการไปตามที่ตกลง แต่ต้องไม่เป็นการสมยอมกันเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย หากตกลงกันไม่ได้ให้แจ้งคู่กรณีไปฟ้องต่อศาลภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ถ้าไม่มีการฟ้องภายในกำหนดดังกล่าว ให้ถือว่าผู้ขอไม่ประสงค์จะสอบเขตโฉนดที่ดินนั้นต่อไป
    ในกรณีผู้มีสิทธิในที่ดินประสงค์จะขอให้ตรวจสอบเนื้อที่ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เฉพาะรายของตน ให้ยื่นคำขอพร้อมด้วยหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินนั้นต่อเจ้าพนักงานที่ดิน และให้นำความในวรรคสอง วรรคสาม วรรคสี่ และวรรคห้า มาใช้บังคับโดยอนุโลม
    สาระสำคัญ

    การสอบเขตที่ดิน

    ”การสอบเขต” หมายถึง การรังวัดตรวจสอบแนวเขตโฉนดที่ดินหรือการรังวัดตรวจสอบเนื้อที่ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เพื่อให้ทราบที่ตั้งแนวเขตที่ดินและจำนวนเนื้อที่ของที่ดินตามที่ได้ครอบครองอยู่จริง

    การสอบเขตที่ดิน
    - การรังวัดสอบเขตที่ดินซึ่งมีชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันหลายคน ผู้ถือกรรมสิทธิ์คนหนึ่งคนใดนำทำการสอบเขตโฉนดที่ดิน โดยไม่ต้องมีหนังสือมอบฉันทะของคนอื่นไปก่อนได้ แต่ถ้าปรากฏว่าจำนวนเนื้อที่ดินหรือเขตที่ดินที่ทำการสอบเขตใหม่คลาดเคลื่อนไปจากเดิม จึงให้จัดการติดต่อให้ผู้ถือกรรมสิทธิ์รวมทุกคน ได้มีการยินยอมรับรองไว้เป็นหลักฐานด้วย (คำสั่งที่ ๑/๒๕๐๔ ลงวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๐๔)
    - การรังวัดสอบเขตที่ดินผลปรากฏว่า การครอบครองไม่ตรงกับแผนที่หลังโฉนดที่ดินเดิม คำนวณเนื้อที่ใหม่ได้น้อยกว่าเดิม ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงรับรองแนวเขตครบ การสอบสวนไม่ปรากฏว่ามีการสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย เจ้าพนักงานที่ดินมีอำนาจที่จะสั่งแก้ไขรูปแผนที่และเนื้อที่ในโฉนดที่ดินให้ตรงกับความเป็นจริงได้ ตามมาตรา ๖๙ ทวิ วรรค ๒ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ถ้าผู้ขอไม่มีความประสงค์จะดำเนินเรื่องต่อไปก็ย่อมเป็นสิทธิของผู้ขอที่จะขอเลิกเรื่องได้ แต่ขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้เจ้าของที่ดินทราบถึงผลการรังวัดสอบเขตที่ดินดังกล่าวโดยชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง หากยินยอมให้แก้ไขรูปแผนที่และเนื้อที่ได้ก็ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อไป แต่ถ้าไม่ยินยอมก็ให้บันทึกถ้อยคำไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับกลัดคำสั่งให้สอบเขตที่ดิน (ท.ด.๘๐) ว่า ”ที่ดินแปลงนี้ได้มีการรังวัดสอบเขตที่ดิน ปรากฏว่าการครอบครองไม่ตรงกับแผนที่หลังโฉนดที่ดินเดิม คำนวณเนื้อที่ใหม่ได้น้อยกว่าเดิม ……….ตารางวา ให้ทำการสอบเขตโฉนดที่ดินเสียก่อน ถ้าคู่กรณียืนยันให้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ก็ให้บันทึกถ้อยคำเป็นหลักฐานไว้แล้วดำเนินการต่อไปได้” ติดไว้ในโฉนดที่ดินเสียก่อน แล้วจึงให้เลิกเรื่องไปได้ ในกรณีที่มีการขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับโฉนดที่ดินแปลงนี้ ถ้าคู่กรณียืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรให้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ก็ให้พนักงานเจ้าหน้าที่บันทึกถ้อยคำของคู่กรณีทุกฝ่ายเพื่อให้ทราบถึงผลการรังวัดสอบเขตที่ดินครั้งก่อนว่า การครอบครองไม่ตรงกับรูปแผนที่และเนื้อที่ในโฉนดที่ดินเดิม ไว้เป็นหลักฐานด้วยทุกครั้งจนกว่าจะได้มีการสอบเขตแก้ไขรูปแผนที่และเนื้อที่ในโฉนดที่ดินให้ถูกต้อง (ตอบข้อหารือจังหวัดสมุทรสงคราม ที่ มท ๐๖๐๙/๒๐๕๒๔ ลงวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๒๓ เวียนโดยหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท ๐๖๐๙/ว.๒๒๓๖๗ ลงวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๒๓)
    -

    คำตอบ

    การออกโฉนดที่ดินโดยอาศัยหลักฐาน ส.ค.๑ เมื่อระยะแนวเขตเปลี่ยนแปลง และข้างเคียงรับรองแนวเขตครบ
    ผู้ปกครองท้องที่รับรองแนวเขตที่สาธารณะฯ ถูกต้อง ให้ปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๓๒) ข้อ ๘ วรรคสอง เนื่องจากไม่ได้มีด้านจดที่ป่าแต่อย่างใด
    สำหรับข้างเคียงทางด้านทิศตะวันออก เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า จดที่ดินของนาย ก. ตามหลักฐาน ส.ค.๑ คงเดิมการเขียนข้างเคียงด้านทิศตะวันออกจะเขียนว่าที่มีการครอบครอง ไม่ว่าที่ดินของนาย ก. ซึ่งเป็นที่ดินที่ไม่มีหลักฐานนั้นจะอยู่ในเขตป่าไม้ถาวรหรือไม่ก็ตาม เพราะการเขียนและรับรองแนวเขตดังกล่าวจะเป็นไปตามระเบียบกรมที่ดินว่าด้วย การเขียนข้างเคียงและการรับรองแนวเขตที่ดิน พ.ศ. ๒๕๔๑ ข้อ ๗.๒ แม้ว่า นาย ก. จะไม่มีหลักฐานใดก็ให้เขียนข้างเคียงว่าที่มีการครอบครอง ตามข้อเท็จจริง

    \"\"\"\"\"\"\"\"\"\"ตอบโดย :
    รายละเอียด : คำตอบ



    สำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ


    ที่ดินจังหวัดยโสธร คําถามเลขที่520760085 ตอบคําถามที่ยึดหลักตามข้อเท็จจริงเเละที่ดินรังวัดในปัจุบันเเม้เนื้อที่เกินก็สามารถออกโฉนดได้ตามเนื้อที่ที่ครอบครองทําประโยชน์อยู่จริง



    ข้าพเจ้าเเละผู้ให้ข้อมูลมั่นใจว่าชาวดินมีมาคราฐานเดียว


    ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเรื่องจริงที่จังหวัดภูเก็ต
    ถ้าผู้ตรวจกระทรวงทราบเเล้วจะกรุณาตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นที่ของนายจรัญ หนูพู่ ประชาชนที่รอความหวังจากเปาบุ้นจิ้นของกรมที่ดิน ที่ข้าพเจ้าเขียนมาเพื่อขอความเป็นธรรมมิได้คิดหรือมีความคิดที่จะได้ทรัพย์ของเเผ่นดินที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายเเต่อย่างใดเเต่ถ้าตามกฎหมายเป็นทรัพย์ที่ข้าพเจ้าควรได้ก็เป็นสิ่งที่ชอบเเล้วสุดท้ายนี้ขอให้สํานักผู้ตรวจกรมที่ดินมีความเจริญเเละดํารงคุณธรรมให้กับกรมที่ดินตลอดไป

    การเดินทางต้องใช้เงินมากข้าพเจ้าจึงต้องพึ่งระบบคอมเพื่อลดค่าใช่จ่ายจึงขอกราบขอโทษมานะที่นี้

    ขอบคุณ ผู้ถ่ายทอดความรู้สึกของข้าพเจ้ามานะที่นี้ด้วย

    ด้วยความเคารพ

    จรัญ หนูพู่



    \"

  • จาก จรัล panai345@hotmail.com
    [2009-12-17 07:14:11]

    วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553

    พระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน ฉบับที่ ๑๑

    พระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๑๑

    สรุปผลการดําเนินงานตามแผนปฏิบัติงานสร้างราชการใสสะอาดและการปองกั นปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบกรมที่ดินประจําปึงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของส่วนภูมิภาค

    http://www.dol.go.th/lo/clean_center/mt0519-2114/summary-province.pdf







    ประชาชนชาวภูเก็ตใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ การมีส่วนร่วมของประชาชน   ช่วยกันพัฒนาตามยุทธศาตร์ /กลยุทธของกรมที่ดินให้บรรลุวัตถุประสงค์ ว่ามียุทธศาตร์ใหนยังไม่ได้ทํา เเล้วemail   konthaika@gmail.com
    จะได้รวบรวมข้อมูลให้กรม จะได้ของบให้สนงที่ดินภูเก็ต ได้เพิ่มศักยภาพ เป็นหน้าเป็นตาให้ชาวภูเก็ต ที่เห็น เช่น เว็ปไชด์ โดยเฉพาะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว เว็ปไซด์ ควรมีภาคภาษาอังกฤษ ไม๊ เเล้วจะเอาเว็ปไซด์ ที่ดินภูเก็ตมาวิเคราะห์ รอข้อคิดเห็นจากประชาชนให้ข้อมูลก่อนครับ ผมขอยืนยันว่านี่คือการมีส่วนร่วมของประชาชนตามสิทธิของรัฐธรรมนูญ


     คําสั้่งปี51      จัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารของสํานักงานที่ดิน   ตอนนี้หาข้อมูลครับ นี่ข้อเเรกก่อน

    คดีตัวอย่างครับ

    ศาลปกครองสูงสุด เป็นคําพิพากษา อุทธรณ์

     ลองอ่านช้าๆเป็นเรื่องของเเนวเขตที่ดินครับ จะมีที่จดที่ว่างเปล่าเเล้วที่ว่างเปล่าเปลี่ยนมาเป็นโฉนดเเต่ก็ไม่มีการกันระยะถ้าข้างเคียงรับรองเเนวเขตถูกต้องครับ

    วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2553

    ส.ค.1ภูเก็ตไม่สนโฉนด ที่ดินมึน4พันแปลงยื่นขอไม่ถึงครึ่ง


    ส.ค.1ภูเก็ตไม่สนโฉนด ที่ดินมึน4พันแปลงยื่นขอไม่ถึงครึ่ง

    แปลกแต่จริง เจ้าของที่ดิน ส.ค. 1 ในจังหวัดภูเก็ต ไม่สนยื่นขอออกโฉนด จากยอดรวมกว่า 4,000 แปลง มายื่นแค่พันกว่าแปลงเท่านั้น ที่ดินจังหวัดบอกประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบแล้ว ยังไม่รู้สาเหตุ ส่วนใหญ่อยู่เขตถลาง คาดเจ้าของที่ดินอาจรู้ว่าอยู่ในเขตป่าสงวน ว่าหลังจากนี้เจ้าของ ส.ค.1 จะขอออกโฉนดจะต้องร้องศาล

    นายไพทูรย์ เลิศไกร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2551 มาตรา 8 กำหนดให้ผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับที่มีหลักฐานการแจ้งการครองครองที่ดิน (ส.ค.1) และยังมิได้ยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ให้นำหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน มายื่นคำขอเพื่อออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่มาตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2551 จนถึงวันที่ 8กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งขณะนี้ระยะเวลาสิ้นสุดแล้ว
    “ส่วนของจังหวัดภูเก็ตจากการสำรวจเมื่อปี 2551 มี ส.ค.1 จำนวน 4,793 แปลง ปรากฎว่ามีผู้ที่ครอบครองมายื่นคำขอออกโฉนดที่ดินจำนวน 1,645 แปลง คิดเป็น 34% แบ่งเป็นเขตอำเภอเมืองภูเก็ตจำนวน 528 แปลง อำเภอกะทู้ จำนวน 706 แปลง และอำเภอถลาง จำนวน 411 แปลง โดยยังคงเหลือ ส.ค.1 ที่ผู้ครอบครองยังไม่มายื่นขอออกโฉนดอีก 3,148 แปลง ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่อำเภอถลางจำนวน 2,152 แปลง รองลงมาอำเภอกะทู้ จำนวน 517 แปลง และอำเภอเมือง 479 แปลง”
    นายไพทูรย์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถที่จะประมวลหรือหาสาเหตุได้ว่าทำไมจึงมีผู้นำหลักฐานส.ค.1มายื่นขออกโฉนดน้อย เชื่อว่าที่ผ่านมาประชาชนส่วนใหญ่จะทราบระยะเวลาของการที่จะต้องยื่นเอกสารเพราะได้มีการทำประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ตลอดจนแจ้งไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านเพื่แจ้งให้ลูกบ้านได้รับทราบ ดังนั้นส่วนตัวคิดว่าการที่ผู้ถือ ส.ค.1 ไม่นำเอกสารมายื่นเนื่องจากบางรายอาจจะทราบอยู่แล้วว่า ส.ค.1 ที่ตัวเองถือครองอยู่นั้นตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าไม้หรือเขตปฎิรูปที่ดิน โดยกลุ่มที่ไม่ได้มีการยื่นตามระยะเวลาที่กำหนดนั้นจะต้องร้องต่อศาลเพื่อขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
    ขั้นตอนต่อจากนี้นายไพทูรย์ กล่าวว่า จะทะยอยออกไปทำการรังวัดตามกระบวนการและตามลำดับที่ได้มีการยื่นเอกสารไว้ ซึ่งคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากจำนวนของผู้ที่มายื่นขอออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นจำนวนมาก รวมถึงในกลุ่มผู้ที่ยื่นเอกสารตามภารกิจปกติด้วย คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการไม่ต่ำกว่า 3 ปี เนื่องจากจะมีพื้นที่บางส่วนเกี่ยวเนื่องกับพื้นที่ป่าไม้หรือเขตปฎิรูปที่ดินทำให้จะต้องใช้ความระมัดระวังและรอบคอบค่อนข้างมาก เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นตามมา


    วันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2553

    เราถามกรมที่ดินตอบ

    logo.png

    print_f2.png
    cancel_f2.png

    คำถามเลขที่ : 5208-061784เรื่อง 5207-061042เรื่อง การรังวัดออกโฉนดที่ดินกรณีหลักฐาน ส.ค.1

    รายละเอียด :
    กรณีด้านเหนือคาบเกี่ยวเขคป่าเเต่ป่าไม้รับรองว่าไม่อยู่ในเขตป่าต้องเว้นระยะกี่เมตรเเละข้างเคียงมีการครอบครองทุกค้านคํานวนระยะห่างของเเต่ละด้านยังไงค่ะ ขอบคุณต่ะ
    โดยคุณ :
    วรรณี
    วันที่ :
    17 สิงหาคม 2552 15:00 น.




    คำตอบที่ 1
    รายละเอียด :
    คำตอบ
     กรณีตามคำถาม ที่ดินด้านทิศเหนือคาบเกี่ยวเขตป่า เเต่ป่าไม้รับรองว่าไม่อยู่ในเขตป่า เเละข้างเคียงมีการครอบครองทุกด้าน หากเป็นกรณีหลักฐาน ส.ค.๑ ซึ่งมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่า หรือที่รกร้างว่างเปล่า
    การดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.๓) ให้ดำเนินการรังวัดตามระยะที่ปรากฏในหลักฐาน ส.ค.๑ โดยประมาณนั้น และต้องปฏิบัติตามระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒
    (พ.ศ.๒๕๓๒) ข้อ ๘ และ ข้อ ๑๐ และตามนัยหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท ๐๖๐๙/ว ๑๓๖๘๘ ลงวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๑๗ อาทิเช่น ที่ดินที่มี ส.ค.๑ ด้านทิศเหนือจดป่า ในการรังวัดเพื่อออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน เจ้าหน้าที่จะต้องถือระยะหลักเขตทิศใต้เป็นหลัก แล้วเริ่มวัดระยะจากหลักมุมเขตทางทิศใต้ของที่ดินแปลงนั้นทั้งด้านทิศตะวันออกและตะวันตกไปทางทิศเหนือให้ระยะของสามด้านที่วัดได้เท่ากับระยะที่แจ้งไว้ใน ส.ค.๑ ไม่ใช่วัดระยะเฉพาะด้านทิศเหนือซึ่งจดป่า โดยวัดจากทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออกแต่เพียงด้านเดียวเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อให้ระยะของด้านที่มิได้จดป่าหรือระยะอื่นอีก ๒ ด้านได้บังคับจุดอันเป็นมุมเขตที่ดินทางด้านเหนือตรงจุดที่ด้านทั้งสามตัดกัน สำหรับกรณีที่มีหลายด้านจดป่าก็ให้ปฏิบัติทำนองเดียวกัน รายละเอียดปรากฏตามเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้ แต่หากเป็นกรณีที่ ส.ค.๑ ไม่ได้แจ้งข้างเคียงจดป่า แต่ข้อเท็จจริงจดป่าเป็นข้างเคียง การรังวัดจึงรังวัด
    แนวเขตตามระยะที่ปรากฏตาม ส.ค.๑ โดยประมาณ ประกอบกับที่ผู้ขอและกรมป่าไม้ชี้แนวเขตร่วมกัน โดยไม่ต้องเว้นระยะ
    แต่อย่างไร โดยเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้เป็นผู้รับรองแนวเขต
    แต่หากข้อเท็จจริงตามที่ท่านแจ้งว่า ข้างเคียงมีการครอบครองทุกด้าน จึงไม่เกี่ยวข้องกับกรมป่าไม้แต่อย่างใด ซึ่งพิจารณารังวัดตามระยะที่ปรากฏตามหลักฐาน ส.ค.๑ โดยประมาณ ประกอบการนำชี้แนวเขตการครอบครองของผู้ขอร่วมกับเจ้าของที่ดินข้างเคียง ในประเด็นนี้ หากข้างเคียงไม่ติดต่อกับเขตป่าไม้นี้ ต้องพิจารณาว่า อยู่ในหลักเกณฑ์ที่ต้องตั้งคณะกรรมการฯ ตามข้อ ๑๐ (๓) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ฯ หรือไม่

    เอกสารเพิ่มเติม

    ตอบโดย :
    สำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ
    ประสานงานโดย :
    สำนักงานเลขานุการกรม โทร.0-2221-5682, 0-2226-3073
    วันที่ :
    2 กันยายน 2552 10:19 น.

    กรมที่ดินตอบคําถาม


    คำถามเลขที่ : 5209-063767 เรื่อง  ข้างเคียงการรังวัดออกโฉนดที่ดิน
    รายละเอียด :การรังวัดออกโฉนดที่ดิน จากหลักฐานอื่นๆ นอกจาก ส.ค.๑ กรณีเจ้าของที่ดินข้างเคียงได้รับหนังสือแจ้งให้มาระวังชี้แนวเขตแล้ว(มีใบเหลือง)แต่ไม่มาที่ปฏิบัติมาจาก สำนักงานเดิม ปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๓๒)ข้อ ๙ (๑) ไม่มีการสอบถาม มาอยู่ที่สำนักงานที่ดินใหม่ ให้ทำหนังสือสอบถามไปยังเจ้าของที่ดินข้างเคียงที่ไม่มา(มีใบเหลือง)ถามว่า 1 ต้องปฏิบัติอย่างไรจึงถูกกฏหมาย 2 การสอบถามปฏิบัติตามหนังสือหรือระเบียบอะไร 3 การปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติฉบับที่ ๑๒(พ.ศ.๒๕๓๒) ข้อ ๙ (๑) ถูกต้องหรือไม่และต้องมีการสอบถามหรือไม่อย่างไร
    โดยคุณ :ช่างรังวัดย้ายบ่อย
    วันที่ :29 กันยายน 2552 15:56 น.



    คำตอบที่ 1
    รายละเอียด :
    คำตอบ

                    กรณีตามคำถาม
                    ข้อ ๑. การระวังชี้แนวเขต และลงชื่อรับรองแนวเขตของเจ้าของที่ดินข้างเคียงในการรังวัดออกโฉนดที่ดินสืบเนื่องจากหลักฐานอื่นที่ไม่ใช่ ส.ค.๑ นั้น กรมที่ดินได้วางแนวทางปฏิบัติไว้แล้ว ซี่งตามแบบของกรมที่ดินจะปรากฏข้อความว่า ถ้าผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงไม่มาหรือมาแต่ไม่ยอมลงชื่อรับรองแนวเขตโดยไม่คัดค้านการรังวัด เมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันทำการรังวัด พนักงานเจ้าหน้าที่จะได้ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ โดยไม่ต้องมีการรับรองแนวเขต (ตามนัยหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท ๐๗๑๓/ว ๓๕๔๙ ลงวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓ ข้อ ๑ ประกอบระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๓๒) ว่าด้วยเงื่อนไขการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ข้อ ๙ (๑))  และไม่ต้องสอบถาม
                    ข้อ ๒. กรณีการทำหนังสือสอบถาม น่าจะเป็นกรณีการรับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัดตามความในมาตรา ๖๙ ทวิ วรรคสามและวรรคหก แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน  ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.๒๕๒๐ ในกรณีที่ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้รับการติดต่อจากพนักงานเจ้าหน้าที่ให้มาระวังชี้แนวเขตแล้ว แต่ไม่มาหรือมาแต่ไม่ยอมลงชื่อรับรองแนวเขตโดยไม่คัดค้านการรังวัด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำหนังสือแจ้งให้มาลงชื่อรับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัดโดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงตามที่อยู่ที่เคยติดต่อหรือตามที่อยู่ที่ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงนั้นได้แจ้งเป็นหนังสือไว้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ (กฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๑ (พ.ศ.๒๕๒๑)ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗)  จึงเป็นคนละกรณีกับข้อ ๑.
                 ข้อ ๓. การปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติฉบับที่ ๑๒(พ.ศ.๒๕๓๒) ข้อ ๙ (๑) ถูกต้องแล้ว และไม่ต้องมีการสอบถามแต่อย่างใด
                

                                                     """"""""""
    ตอบโดย :สำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ
    ประสานงานโดย :สำนักงานเลขานุการกรม โทร.0-2221-5682, 0-2226-3073
    วันที่ :15 ตุลาคม 2552 12:01 น.
    เลขเสร็จ
    174/2534
    เรื่อง
    คณะกรรมการกฤษฎีกา
    มีนาคม 2534.บันทึก
    เรื่อง หลักเกณฑ์การออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
    ตามมาตรา 59 ตรี แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
    --------
    ระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2532



    สังเกตุว่า
    กฤษฎีกา  ออกปี 34 ออกหลังระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ซึ้งออกปี 32  

    ฉ 12 ออกตาม59ตรี











    ออกโฉนด
       เริ่มจากมาตรา65…..การรังวัด..เป็นไปตาม..กฎกระทรวงฉบับที่6....งานแผนที่ชั้น1(แก้ไขโดย ฉ.49)....งานแผนที่ชั้น2....วัดใหม่มาตรฐานเดิมหรือดีกว่าเดิม....เขตคดไปคตมาให้ตกลงเป็นเส้นตรงเส้นเดียวหรือหลายเส้นต่อเนื่อง(ต้องไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงกฎหมาย)
     ส่วนมาตรา 56...แบบ หลักเกณฑ์  วิธีการออก......กำหนดไว้ใน กฎกระทรวง43.....ออกโฉนดตาม ม.58 , 59 , 59ทวิ....การประกาศเดินสำรวจจะบังคับเฉพาะผู้มี ส.ค.๑...ใบจอง...ใบเหยียบย่ำ...น.ส.๓...ตราจองที่ตราว่า"....".....น.ค.๓...กสน.๓....โฉนดไม่อยู่ในข่ายบังคับให้มานำเดินสำรวจน่ะจ๊ะ...หากข้างเคียงมีโฉนด...จะต้องรู้ผลก่อนว่าข้างเคียงด้านนั้น ติดต่อได้หรือไม่อาจติดต่อได้...ถึงจะรู้ว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร....มีผู้ใหญ่บ้างท่านสรุปเอาเองว่า...ถ้าจะรู้ว่าติดต่อได้หรือไม่ได้  จะต้องมีการติดต่อ...หากเป็นเรื่องเฉพาะราย...ข้างเคียงเป็น ท.ค. รู้แต่ชื่อไม่ทราบนามสกุล....จะติดต่ออย่างไรล่ะครับ...เจตนาของกฎหมายเพียงขอแค่ มีผู้รู้เขต..ผู้ขอรังวัดทราบเขตเป็นอย่างดีและขอรับผิดชอบเอง(ทด๓๔)..น่าจะเพียงพอแล้วครับ...อีกประการหนึ่งกฎหมายไม่ได้กำหนดจะออกโฉนดตาม ม.5859..จะต้องมีการรับรองเขตครบ..แต่เนื่องจากแบบพิมพ์ตามกฎกระทรวง43(น.ส.๕)..กำหนดให้มีการรับรองเขตแต่ก็ไม่ได้ระบุว่าจะต้องรับรองเขตครบ.....เพียงแต่ มาตรา59ตรี  หากเนื้อที่ใหม่ต่างจาก ส.ค.๑ให้ออกเท่าที่ทำประโยชน์โดยปฏิบัติไปตาม ระเบียบคณะกรรมการจัดฯ ฉ.12..ซึ่งระบุว่าถ้าออกตาม 59ตรี มีระยะและข้างเคียงตรงตาม ส.ค.๑ ออกเท่าที่ทำประโยชน์แล้วแต่ไม่เกินจำนวนที่คำนวณได้...ตรงนี้ไม่โอกาสเป็นไปไม่ได้ ระยะกว้างยาวอย่างละเส้น วัดใหม่ได้อย่างละเส้น ข้างเคียงตรงกับ ส.ค.๑  ออกได้เลย 1 ไร่  แต่ถ้าทำประโยชน์แล้วคำนวณได้แค่2งาน ก็ให้ออกได้แค่2งาน ส่วนที่เหลืออีก2งานไม่ออกให้....จึงมีขยักที่สอง...หากระยะผิดพลาดคลาดเคลื่อน...ออกเท่าที่ทำประโยชน์โดยต้องมีการรับรองเขตครบ....คำว่ารับรองเขตครบเป็นอย่างไร ได้ขยายความไว้ในข้อ9ของระเบียบฯ....จดป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า...ใช้ระยะเป็นหลัก....เพราะไม่สามารถพิสูจน์ไปได้ไกลขนาดใหนถึงจะถึงป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า เท่ากับในขณะที่แจ้ง.....ซึ่งก่อให้เกิดสิทธิตาม ป.ที่ดินเท่ากับขณะที่แจ้ง..ส่วนที่ไม่ได้แจ้ง  ไม่ก่อให้เกิดสิทธิ     "คำว่าออกโฉนดต้องมีการรับรองเขตให้ครบ  แล้วขยายคำว่าครบเป็นอย่างไรนั้น"   เลยถูกนำมาใช้ทุกกรณี....โดยคิดว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยถูกต้องแล้ว....และก็รักษาสิทธิให้ข้างเคียงจัง....ทำให้ข้างเคียงหรือทุกส่วน มองเป็นหน้าที่ของที่ดินไปเสียแล้ว หากไม่ทำหรือไม่แจ้งข้างเคียงอาจถูก ดร.วิกันดา นำมาอ้างแล้วฟ้องเอาน่ะครับ..... 
    ผู้แสดงความคิดเห็น วส.เก้าแต้ม วันที่ตอบ 2009-03-10 00:46:11
    00:46:11ผู้แสดงความคิดเห็น วส.เก้าแต้ม วันที่ตอบ 2009-03-10 00:46:11

    จังหวัดเลย บอกยึดตามข้อเท็จจริงที่เป็นปัจุบัน จังหวัดภูเก็ตบอก ยึดตามสค1

    กระดานสนทนาสำนักงานที่ดินจังหวัดเลย
    เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้, ถาม-ตอบปัญหา, แนะนำ, ติชม


    ยื่นขอโฉนด จาก สค1 แล้วเจ้าหน้าที่รังวัด ไม่รังวัดไห้ ทำไงดีครับ
    อ้างถึงข้อความนี้ ในการตอบของคุณ
    ผมได้ยื่นขอออกโฉนดจาก สค 1 ตามที่รัฐประกาศ ไว้ที่ สนง.ที่ดิน จ.เลย แล้วมีช่างมาสำสวจพื้นที่ของผม แล้วบอกว่าไม่สามารถออกโฉนดให้ได้ เนื่องจากมันไม่ตรงระวางไม่ตรงจุด เป็น สค1 บิน ไปซะอย่างงั้น มันจะบินมาจากไหนละครับ ก็เจ้าของเดิมเขาก็มีชีวิตอยู่ จำนวนพื้นที่ก็ 2 ไร่เท่ากัน เจ้าของที่ดินก็คนเดียวกัน สภาพพื้นที่มันเปลี่ยนไปตามอายุของมัน ตั้ง 50 กว่าปีแล้ว กลายเป็นถนนบ้างกลายเป็นบ้าน เป็นสวนบ้าง แล้ว สค1 ที่ผมถืออยู่นี่ก็ไม่มีระยะบอกเขตด้วยว่าทิศใหนระยะเท่าใดมีหมุดอยู่ที่ใหน จนท.ท่านนั้นฟันธงเลยว่าออกโฉนดให้ไม่ได้ แถมยังบอกว่าผมจะติดคุกอีก จะอะไรกันนักกันหนาครับท่าน ผมมาขอออกโฉนดนะครับท่าน ไม่ใช่มาขอติดคุก และยังบอกกับผมต่อว่าให้รีบขายใบ สค1.ไปซะ จะได้ไม่เสียสิทธิ์ ยังงี้ก็มีด้วย ผมขอถามตรงๆนะครับว่าเมื่อเป็นเช่นนี้จะให้ผมดำเนินการอย่างใดต่อไป จะให้ผมไปฟ้องที่ศาลใหน ภายในกี่วัน ผมจะได้ไม่ถูกรอนสิทธิ์ครับ...
    คนเมืองเลย ส่งอีเมล์ถึง คนเมืองเลย 118.175.122.* [ 17 ธ.ค. 2552 เวลา 05:08 ] ตอบคำถามนี้


    ตอบ : Q0004 - คนเมืองเลย [17 ธ.ค. 2552] อ้างถึงข้อความนี้ ในการตอบของคุณ
    ตามประกาศของกรมที่ดินให้ผู้มี หลักฐาน ส.ค.1 ไปยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ภายใน 6 กุมภาพันธ์ 2553 หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวจะต้องมีคำพิพากษาของศาลมาเพื่อประกอบการออกเอกสารสิทธิ

    ในการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ถ้าเป็นการออกเฉพาะรายตามมาตรา 59 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินผู้ขอต้องไปยื่นคำขอ ณ สำนักงานจังหวัดหรือสาขาที่ที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่ ในการยื่นคำขอดังกล่าวผู้ขอต้องชี้ตำแหน่งที่ดินได้ว่าที่ดินที่จะขอออกโฉนดที่ดินอยู่ระวางใด(การที่จะรู้ได้ว่าที่ดินแปลงใดอยู่ระวางใดโดยนำโฉนดที่ดินข้างเคียงมาประกอบ)

    หรือโดยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยจะมีประกาศกำหนดพื้นที่ที่จะทำการเดินสำรวจ เมื่อประกาศแล้วจะแจ้งไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านท้องที่ที่จะทำการเดินสำรวจ เจ้าของที่ดินที่มีหลักฐาน ส.ค.1 ก็สามารถยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ทำการเดินสำรวจในพื้นที่ได้เลย

    ในการออกโฉนดที่ดินดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนจนเชื่อได้ว่าที่ดินที่จะออกโฉนดหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตาม ส.ค.1 นั้นเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน (ในการที่จะเชื่อว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกันหรือไม่ก็โดยการสอบสวนข้างเคียงถึงแม้ว่าปัจจุบันสภาพอาจเปลี่ยนแปลงไปก็สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าเจ้าของเดิมเป็นใคร ใช่เจ้าของที่ดินข้างเคียงที่ได้แจ้งไว้ใน ส.ค.1 หรือไม่ และพยานหลักฐานอื่นประกอบด้วย เช่นผู้ปกครองท้องที่ ฯลฯ)

    ในการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ถ้าปรากฏว่าที่ดินมีอาณาเขต ระยะแนวเขต และที่ดินข้างเคียงทุกด้านถูกต้องตรงกับหลักฐานการแจ้ง ส.ค.1 และเชื่อได้ว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน แต่เนื้อที่ที่คำนวณได้แตกต่างไปจากเนื้อที่ตาม ส.ค.1 จะออกโฉนดที่ดินให้ตามเนื้อที่ที่ครอบครองทำประโยชน์แล้ว

    ในกรณีที่ระยะของแนวเขตผิดพลาดคลาดเคลื่อน จะออกโฉนดที่ดินให้ตามจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้ว ก็ต่อเมื่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้ลงชื่อรับรองแนวเขตครบทุกด้าน

    ในกรณีของท่านให้ไปยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ณ สำนักงานที่ดินท้องที่ไว้ก่อนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553 เพื่อจะได้ไม่ต้องไปใช้สิทธิทางศาล

    หากท่านสงสัยหรือมีข้อมูลเพิ่มเติมให้ท่านไปพบเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเลย หรือสอบถามได้ที่กลุ่มงานวิชาการที่ดิน เบอร์โทรศัพท์ 0-4281-1560 ต่อ 18

    กว.เลย 125.26.211.* [ 21 ธ.ค. 2552 เวลา 22:22 ] ความเห็นที่1/#0004 เขียนตอบคำตอบนี้
    0B_8uuZYtZCZcNDZkZTNiMjUtNmNkYy00NDQyLWE5NTQtZGZiNTkwNDg2NzA0.jpg

    บันทึกถ้อยคํา การรับรองเเนวเขต

    Item ThumbnailItem ThumbnailItem ThumbnailItem ThumbnailItem ThumbnailItem ThumbnailItem Thumbnail

    วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

    ที่ดินเสนอผู้ว่าเรื่องที่ผู้ขออุธรณ์







    Item Thumbnail
    Item Thumbnail





    Item ThumbnailItem Thumbnail
    Item Thumbnailท่านผู้ว่ามีความเห็นว่าข้อเท็จจริงให้ยึดตามสค1 จดที่ว่างเปล่า  ให้ใช้ระเบียบตามที่ดืนคือ 12 ข้อ10 เเค่ข้าพเจ้ามีความเชื่อโดยสุจริตว่าข้อเท็จจริงในปัจุบันมีการครอบครองทุกด้านไม่มีด้านใดจดที่ว่างเปล่า เเละข้างเคียงรับรองเเนวเขตครบทุกด้านไม่มีด้านใดคัดค้าน ท่านบอกเป็นคําสั่งทางปกครองให้ไปยื่นคําฟ้องที่ศาลปกครองข้าพเจ้าเป็นชาวสวนกว่าจะได้โฉนดที่ทํามาด้วยนํ้าพักนํ้าเเรงต้องไปขึ้นศาลเสียเงินค่าเดินทางเเละข้าพเจ้าอายุมากเเล้วข้าพเจ้าเป็นชาวบ้านคนหนึ่งที่ประกอบอาชีพสุจริตอยู่อย่างพอเพียงขัาพเจ้าเเค่ต้องการที่ดินที่ข้าพเจ้าทํามาเท่านั้นเองครับ
                                         ด้วยความเคารพอย่างสูง

                                                     จรัญ หนูพู่

    วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553

    คำสั่งทางปกครอง : ลักษณะของคำสั่งทางปกครอง





    ลักษณะของคำสั่งทางปกครอง 

    1. คำสั่งทางปกครอง จะต้องเป็น ? การใช้อำนาจตามกฎหมาย ? เพราะฉะนั้นการกระทำใดๆ ก็ตามที่ไม่มีกฎหมายให้อำนาจไว้ ก็ไม่ใช่คำสั่งทางปกครอง ถ้าเจ้าหน้าที่ใช้สิทธิสัญญากระทำการกับคู่สัญญา อีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ถือว่าเป็นคำสั่งทางปกครอง 
    2. ต้องเป็นการใช้อำนาจของ ? เจ้าหน้าที่ ? เท่านั้น ( ตามคำนิยาม .5 แห่ง ...วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ..2539 ) 
    3. มีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ซึ่งผลนั้นเป็นการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับ หรือกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคล 
    4. มีผลกระทบต่อบุคคลใดโดยเฉพาะ 
    กฎ เป็นบทบัญญัติที่มีผลเป็นการบังคับเป็นการทั่วไป โดยไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดหรือบุคคลใดเป็นการเฉพาะ เช่น พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถิ่น ระเบียบ ข้อบังคับ 

    ลักษณะของกฎ 

    1. บุคคลที่ถูกบังคับให้กระทำการ ถูกห้ามมิให้กระทำการ หรือได้รับอนุญาตให้กระทำการ ต้องเป็นบุคคลที่ถูกนิยามไว้เป็น ประเภท คือต้องนิยามไว้ว่าเป็นคนกลุ่มไหน เป็นคนประเภทไหน ซึ่งถึงแม้ว่าถูกนิยามไว้เป็นประเภทแล้ว ก็ยังเป็นคนจำนวนมากไม่รู้จำนวนที่แน่นอน เพราะบังคับใช้เป็นการทั่วไป เช่น เป็นผู้เยาว์ บังคับแก่บุคคลที่มีสัญชาติไทย 
    2. กรณี (การกระทำ) ที่บุคคลดังกล่าวถูกบังคับให้กระทำการ ห้ามมิให้กระทำงาน หรือได้รับอนุญาตให้กระทำการ ต้องถูกกำหนดไว้เป็นนามธรรม เช่น ห้ามมิให้ผู้ใดสูบบุหรี่บนรถประจำทาง เป็นการกำหนดกรณีเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้บอกว่ารถประจำทางเบอร์อะไร ทะเบียนเท่าไหร่ หมายถึงทุกคัน 
    สรุป คำสั่งทางปกครอง คือ ข้อความที่บังคับให้บุคคลกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ห้ามมิให้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออนุญาตให้การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งขาดลักษณะข้อใดข้อหนึ่งของกฎ แต่ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งทางปกครองหรือกฎก็ล้วนแต่เป็นนิติกรรมทางปกครองทั้งสิ้น เช่น ผู้ว่า กทม. ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น อาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร ออกคำสั่งห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปในส่วนใดของอาคารเลขที่ 1234 เช่นนี้เป็นคำสั่งทางปกครอง แม้ว่าจะไม่ได้เจาะจงที่ตัวบุคคล แต่ก็เจาะจงที่อาคารเลขที่ 1234 

    สาเหตุ ที่จะต้องแยกส่วนคำสั่งทางปกครองและกฎให้ได้ เพราะกฎจะไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง คือ ถ้าจะเอากฎเข้าสู่กระบวนการของวิธีพิจารณาทางปกครอง ก็ไม่ต้องอุทธรณ์ ไปที่ศาลปกครองได้เลย แต่ถ้าเป็นคำสั่งทางปกครองจะต้องผ่านคำสั่งก่อน ถ้าไม่พอใจจึงจะนำคดีขึ้นสู่ศาลปกครอง 









    ข้อมูลจาก law siam       http://www.lawsiam.com/?name=webboard&file=read&id=1076

    ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12



    ข้อกฎหมาย

    Item Thumbnail



    Item Thumbnail


    Item Thumbnail




    มาตรา59ตรี หากเนื้อที่ใหม่ต่างจาก ส.ค.๑ให้ออกเท่าที่ทำประโยชน์โดยปฏิบัติไปตาม ระเบียบคณะกรรมการจัดฯ ฉ.12..ซึ่งระบุว่าถ้าออกตาม 59ตรี มีระยะและข้างเคียงตรงตาม ส.ค.๑ ออกเท่าที่ทำประโยชน์แล้วแต่ไม่เกินจำนวนที่คำนวณได้...ตรงนี้ไม่โอกาสเป็นไปไม่ได้ ระยะกว้างยาวอย่างละเส้น วัดใหม่ได้อย่างละเส้น ข้างเคียงตรงกับ ส.ค.๑ ออกได้เลย 1 ไร่ แต่ถ้าทำประโยชน์แล้วคำนวณได้แค่2งาน ก็ให้ออกได้แค่2งาน ส่วนที่เหลืออีก2งานไม่ออกให้....จึงมีขยักที่สอง...หากระยะผิดพลาดคลาดเคลื่อน...ออกเท่าที่ทำประโยชน์โดยต้องมีการรับรองเขตครบ....คำว่ารับรองเขตครบเป็นอย่างไร ได้ขยายความไว้ใน

    ข้อ9 ของระเบียบฯ....จดป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า...ใช้ระยะเป็นหลัก....เพราะไม่สามารถพิสูจน์ไปได้ไกลขนาดใหนถึงจะถึงป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า เท่ากับในขณะที่แจ้ง.....ซึ่งก่อให้เกิดสิทธิตาม ป.ที่ดินเท่ากับขณะที่แจ้ง..ส่วนที่ไม่ได้แจ้ง ไม่ก่อให้เกิดสิทธิ "คำว่าออกโฉนดต้องมีการรับรองเขตให้ครบ แล้วขยายคำว่าครบเป็นอย่างไรนั้น" เลยถูกนำมาใช้ทุกกรณี....โดยคิดว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยถูกต้องแล้ว....และก็รักษาสิทธิให้ข้างเคียงจัง....ทำให้ข้างเคียงหรือทุกส่วน มองเป็นหน้าที่ของที่ดินไปเสียแล้ว


    Item Thumbnail

    ดูชัดๆเลยครับ 12 ข้อ 10 กรณีที่ด้านใหนติดป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า

    ความหมายน่าจะพูดถึงที่ดินที่จดที่ว่างเปล่าบนข้อเท็จจริงตามปัจุบัน ไม่ใช้ในสค1ระบุอย่างไรก็ถือตามนั้น กรมที่ดินควรตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงเพื่อหาข้อยุติในการบริการประชาชน



    Item Thumbnail


    ท่านอธิบดีครับฉ12ข้อ8 วรรค 2 กรมสั่งไม่ให้ใช้หรือครับ


    ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 8 วรรค 2

    กรณีที่ระยะเเนวเขคผิดพลาดคลาดเคลื่อน ให้พนักงานที่ออกโฉนดหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน์เท่าจํานวนเนื้อที่ได้ทําประโยชน์เเล้วเมื่อผู้มีสิทธิ์ในที่ดินข้างเคียงได้ลงชื่อรับรองเเนวเขตไว้เป็นการถูกต้องครบถ้วนทุกด้าน