กฎหมาย ของประเทศเเต่ละจังหวัดจะใช้กฎหมายฉบับเดียวกันตามที่รัฐธรรมนูญไทยเขียนไว้ว่ารัฐไทยเป็นรัฐๆเดี่ยวจะเเบ่งเเยกไม่ได้เเต่ที่ดินจังหวัดภูเก็ตใช้กฎหมายคนละฉบับกับที่ดินทั่วประเทศ
คนจนเวลาไม่ได้รับความเป็นธรรม มันจุกอกหายใจไม่ออก เฝ้าถามตัวเองว่าเพราะเกิดมาจน จึงไม่ได้รับความเป็นธรรม
ข้าพเจ้าด้วยความน้อยเนื้อตํ่าใจในวาสนาที่ฝันว่าจะได้มีโฉนดจากที่ดินที่ทํามาหากินมาด้วยความสุจริตเเละยังอุทิศที่ผ่ากลางที่ให้เป็นทางสาธารณะด้วยใจที่เห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันข้าพเจ้ายังมีกําลังใจเพราะข้าพเจ้าเชี่อในกรรม ดีที่ทํามาตลอดเเละข้าพเจ้าเชื่อโดยสุจริตว่าที่ดินของข้าพเจ้าไม่ติดที่ป่าหรือที่รกร้าง ข้าพเจ้าจึงขอวิงวอนเเละขอถามท่านนายกว่า ทำไมถึงมีการรับรองเเนวเขตครบทุกด้านรวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งคณะกรรมการ ตามกฎกระทรวงฉบับที่43 มีมติว่า สค 1 ถูกต้อง ออกให้ผู้ขอ ได้เต็มเเปลงเเละที่ดินข้างเคียงไม่เป็นที่หลวงหวงห้ามเเต่อย่างใดและข้าพเจ้าไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ประกาศครบ30วันไม่มีผู้ใดโต้เเย้งคัดค้านเมื่อเจ้าพนักงานที่ดิน พิสูจน์ไม่ได้ว่าสค1 จดที่ว่างเปล่าทําไม.ข้าพเจ้าต้องกันระยะที่ดินออกไป5ไร่ทั้งที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทําผิด..และหากเจ้าหน้าที่ที่ดินเชื่อว่าสค1-ของข้าพเจ้าจดป่า ทําไมถึงออกประกาศ 30 วันไม่มีผู้โต้เเย้งสิทธิซึ้งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนออกโฉนด

ซึ้งตามกฎหมาย ในเมื่อข้างเคียงมิได้ใช้สิทธิ์คัดค้านนำชี้เขตหรือนำรังวัดหรือให้ถ้อยคำต่าง ๆก็ต้องพิจารณาว่ามีกฏหมายหรือระเบียบให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างไรหรือไม่ซึ่งก็คือตามนัยดังกล่าว

ระวางแผนที่เพื่อการออกโฉนดที่ดินเเปลงนี้




Item Thumbnailบั

ระวางแผนที่เพื่อการออกโฉนดที่ดินเเปลงนี้ บันทึกข้างเคียงเปลี่ยนเเปลง( ทด 16) ดูเอกสาร

ตามข้อ15(1)เเละ(2)ตามกฎกระทรวง ฉบับที่43 2537ออกตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมาลกฎหมายที่ดินพศ2497เเละข้อ6วรรคหนึ่งของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรังวัดปลักหลักหมายเขตที่ดินพศ2527


โฉนดที่ดิน สีส้ม มีถนนตรงกลางข้าพอุทิศให้เป็นทางสาธรณะ

สีฟ้า ช้างเคียงโดยรอบ ในสค1 เขียนว่า


ชึ้งใน สค 1ระบุว่า ทิศเหนือจด ที่ดินว่างเปล่า ปัจุบัน ข้อเท็จจริง ได้ออก นส 3 ก

ใน สค 1ระบุ ทิศใต้จด ที่ดินว่างเปล่า ปัจุบัน ข้อเท็จจริง ที่ครอบครอง นาย รัตน์ ดูเอกสาร

ใน สค 1ระบุ ทิศตะวันออก จด ที่ดินนายไข่ ไชยศรี

ปัจุบัน ข้อเท็จจริง จด ที่ดินนายไข่ ไชยศรี

ใน สค 1ทิศตะวันตกจด ที่ดินว่างเปล่า ปัจุบัน ข้อเท็จจริง ที่ครอบครอง นางพรวิไล


ขั้นตอนการออกโฉนดที่ดินเฉพาะราย

1. รับบัตรคิวจากประชาสัมพันธ์
2.ชี้ระวางแผนที่
3. รับคำขอ สอบสวน ชำระเงินค่าธรรมเนียม
4. ฝ่ายรังวัดดำเนินการ นัดทำการรังวัด กำหนดตัวช่างรังวัด
5. ค้นหารายชื่อเจ้าของที่ดินข้างเคียง และพิมพ์หมายข้างเคียง

6. รับหมายแจ้งเจ้าของที่ดินข้างเคียง วางเงินมัดจำรังวัดรับหลักเขตที่ดิน

ข้างเคียงลงชื่อรับรองเเนวเขตครบทุกด้านถูกต้องดูเอกสาร รับรองสําเนาถูกต้องโดยที่ดิน

7. ช่างรังวัดออกไปทำการรังวัด พิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ที่ดิน

8. คำนวณเนื้อที่ และเขียนรูปแผนที่โฉนดที่ดิน
9. เจ้าพนักงานที่ดินประกาศการแจกโฉนดที่ดิน 30 วัน

ประกาศครบ30วัน ไม่มีผู้ใดโต้เเย้งคัดค้าน

10. ประกาศแจกที่ดินให้ปิดในที่เปิดเผย ณ สำนักงานที่ดินท้องที่ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ หรือที่ว่าการกิ่งอำเภอท้องที่ ที่ทำการแขวงหรือที่ทำการกำนันท้องที่และในบริเวณที่ดินนั้นแห่งละหนึ่งฉบับ ในเขตเทศบาลให้ปิดไว้ ณ สำนักงานเทศบาลอีกหนึ่งฉบับ

ประกาศครบ30วัน ไม่มีผู้ใดโต้เเย้งคัดค้าน

11. เสนอเรื่องขออนุมัติผู้ว่าราชการจังหวัด กรณีขอออกโฉนดที่ดินโดยมิได้แจ้งการครอบครองหรือกรณีเนื้อที่เกิน 50 ไร่ ตามมาตรา 59 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

ที่เเปลงนี้มีสค1
12. ส่งเรื่องให้คณะกรรมการตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 ตรวจสอบกรณีที่ดินอยู่ในเขตป่าไม้

คณะกรรมการตามกฎกระทรวงฉบับที่43 สค 1 ถูกต้อง ออกให้ผู้ขอ ได้เต็มเเปลง ดูเอกสาร

-ป่าไม้รับรองไม่ติดอยู่ในเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ดูเอกสาร ทั้งนี้ ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงในหนังสือดังกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้หรือผู้ใดโต้แย้งสิทธิในที่ดินถ้าข้อเท็จจริงจดป่าป่าไม้ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดน157เพราะไม่โต้เเย้งสิทธิเเละเป็นหนึ่งในคณะ-

กรรมการตามกฎกระทรวงตามกฎ43ที่ลงมติรับรองที่เเปลงนี้

ที่ดินว่างเปล่าทางทิศ เหนือ ทิศใต้ เเละทิศตะวันตกซึ้งปรากฎในสค1 เเปลงนี้ ได้รับการรับรองจากผู้ปกครองท้องที่เเล้วว่าไม่เป็นที่ห่วงห้ามประเภทใดทั้งสิ้น

-มีการปักหมุดเขตเเน่นอนเเล้ว


13. เสนอเจ้าพนักงานที่ดินลงนามออกโฉนดที่ดินให้แก่ผู้ขอและแจ้งเจ้าของที่ดินมารับโฉนด

เเต่กลับออกคําสั่งให้กับผู้ขอ

"ห้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนด" โดยอ้างเหตุ

สค1 จดที่รกร้างว่างเปล่าก็ต้องถือระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 10 ในกรณีที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่าเเละระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฎในหลักฐานเเจ้งการครอบครองให้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนด

คําสั่งข้างตีนนี้ ถ้าผู้ปฎิบัติที่มีหน้าที่ต้องเข้าใจถึงขั้นตอนเเละระเบียบปฎิบัติของกฎหมายว่าอยู่ในขั้นตอนใหน ซึ้งเป็นขั้นตอนที่ปฎิบัติตามหน้าที่ตามที่กรมที่ดินใช้มานานเเล้วไม่ใช้ระเบียบใหม่ซึ้งกรมที่ดินได้ออกระเบียบลดขั้นตอนเพื่อให้ข้าราชการของกรมที่ดินได้บริการประชาชนให้ได้รับความสะดวกกรมคงเห็นว่า ขั้นตอนที่มีอยู่นั้นท็าให้การปฏิบัคิหน้าที่งานล่าช้า เเต่ก็เกิดคําถาม ว่ากรมที่ดินสํานักมาตราฐาน มีต๋าตอบให้ประชาชนว่าเเนวทางใหนที่ใช้ในการปฏิบัติงานที่ใช้กัน


ระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน พ.ศ. 2542 และประกาศกรมที่ดินเรื่องการลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน ลงวันที่ 15 กันยายน 2547

ระเบียบกรมที่ดินว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน พ.ศ. 2542 ออกโดยอาศัยอำนาจตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชนของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2532 ซึ่งปัจจุบันระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีบางฉบับ พ.ศ. 2546 เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2546 ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติในการประชุม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2546 ให้ส่วนราชการดำเนินการลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติราชการ เพื่อประชาชนลง 30-50% จากที่กำหนดไว้ในปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อเป็นการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2546 และสอดคล้องตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 กรมที่ดินจึงได้ออกประกาศกรมที่ดิน เรื่อง การลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2547 เพื่อปรับปรุงวิธีการปฏิบัติงาน และให้บริการของกรมที่ดินมีความสะดวก รวดเร็ว และตอบสนองความต้องการของประชาชน สำหรับรายละเอียดของระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการปฏิบัติราชการ เพื่อประชาชน พ.ศ. 2542 ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และประกาศกรมที่ดิน เรื่อง การลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติราชการ เพื่อประชาชนเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2547

ตอบโดย ศูนย์ส่งเสริมประสิทธิภาพกรมที่ดิน ราชการบริหารส่วนกลาง

14. แจกโฉนดที่ดินให้ผู้ขอ

ขั้นตอนสุดท้ายข้อ14ประชาชนจึงไม่ต้องการมาออกโฉนดกันโดยความจริงใครบ้างไม่ต้องการออกโฉนด




---------------------------------------------------------------


นายกฯประกาศเชิญชวนประชาชนทุกคนทุกฝ่าย

ร่วมเดินหน้าปฏิรูประเทศไทย" ย้ำรับฟังทุกเสียง-ทุกความคิด


วันนี้ประเทศไทยต้องเดินหน้า แต่ความโกรธ ความเคียดแค้นและความชิงชัง ไม่สามารถสร้างอนาคตให้ประเทศไทยและลูกหลานไทยได้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะปรองดองเพื่อปฏิรูปประเทศไทย รวมใจเป็นหนึ่งเพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติ สร้างความเสมอภาค สื่อสารถึงกันอย่างสร้างสรรค์ ค้นหาและยอมรับความจริง โดยมีการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย มีประสิทธิภาพและโปร่งใส


เรียนท่านนายกรัฐมนตรี


เรี่อง ขอความเป็นธรรม

ข้าพเจ้านําสค1ที่ระบุระยะจดที่รกร้างว่างเปล่าทั้ง3ด้านเเละถ้าข้อเท็จจริง จดป่าหรือที่ว่างเปล่าจริงตามที่ทางที่ดินจังหวัดม ีหนังสือถึงข้าพเจ้า

โดยมีใจความว่า

"ฝ่ายทะเบียนพิจรณาเเล้ว กรณึสค1 มีข้างเคียงด้านหนี่งด้านใด หรือหลายด้านจดป่าหรือจดที่ดินรกร้างว่างเปล่า โดยใช้ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่12พศ (2532)ข้อ10 ได้กําหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินให้ตามระยะที่ปรากฎในสค1เท่านั้น "เอกสารประกอบ


การที่ข้าพเจ้าได้ขอออกโฉนดโดยอาศัยหลักฐาน สค 1 ถ้าปรากฏว่าเนื้อที่ที่ทำการรังวัดใหม่แตกต่างไปจากเนื้อที่ตามใบแจ้งการครอบครอง (สค1) จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน (. 2497) มาตรา ๕๙ ตรี ในการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ถ้าปรากฏว่าเนื้อที่ที่ทำการรังวัดใหม่แตกต่างไปจากเนื้อที่ตามใบแจ้งการครอบครองตามมาตรา แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน ..๒๔๙๗ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้ได้เท่าจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์ ทั้งนี้ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด รวมถึง


ข้าพเจ้าด้วยความน้อยเนื้อตํ่าใจในวาสนาที่ฝันว่าจะได้มีโฉนดจากที่ดินที่ทํามาหากินมาด้วยความสุตริตเเละยังอุทิศที่ผ่ากลางที่ให้เป็นทางสาธารณะด้วยใจที่เห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันข้าพเจ้ายังมีกําลังใจเพราะข้าพเจ้าเชี่อในกรรม ดีที่ทํามาตลอด

เเละข้าพเจ้าเชื่อโดยสุจริตว่าที่ดินของข้าพเจ้าไม่ติดที่ป่าหรือที่รกร้าง ข้าพเจ้าจึงขอวิงวอนเเละขอถามท่านนายกว่า ทำไมถึงมีการรับรองเเนวเขตครบทุกด้านรวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งคณะกรรมการ ตามกฎกระทรวงฉบับที่43 มีมติว่า สค 1 ถูกต้อง ออกให้ผู้ขอ ได้เต็มเเปลงเเละที่ดินข้างเคียงไม่เป็นที่หลวงหวงห้ามเเต่อย่างใด และข้าพเจ้าไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ประกาศครบ30วัน ไม่มีผู้ใดโต้เเย้งคัดค้านเมื่อเจ้าพนักงานที่ดิน พิสูจน์ไม่ได้ว่าสค1 จดที่ว่างเปล่าทําไม.ข้าพเจ้าต้องกันระยะที่ดินออกไป5ไร่ทั้งที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทําผิด..และหากเจ้าหน้าที่ที่ดินเชื่อว่าสค1-ของข้าพเจ้าจดป่า ทําไมถึงออกประกาศ 30 วันไม่มีผู้โต้เเย้งสิทธิซึ้งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนออกโฉนดที่ิ ดินเเละที่สําคัญ ก็ต้องเเจ้งความดําเนินคดีกับ คณะกรรมการตามกฎกระทรวงฉบับที่43 ที่ีมีต้วเเทนที่ดินจังหวัด ร่วมอยู่ด้วย ในข้อหา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เเ ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ (ม 157)เพราะที่ดินเชื่อว่าสค1เเปลงนี้จดที่ว่างเปล่าช้าพเจ้าไม่ต้องการเอาผิดกับใครเพราะทุกคนก็มีครอบครัวที่ต้องดูเเลเเต่ไม่อยากให้คนอื่นๆต้องมาเจอปัญหาเช่นนี้คนจนเวลาไม่ได้รับความเป็นธรรม มันจุกอกหายใจไม่ออก เฝ้าถามตัวเองว่าเพราะเกืดมาจน จึงไม่ได้รับความเป็นธรรมเห็นชัดว่าถูกเเต่ทําอะไรไม่ได้ หรือว่านี้คือปัญหาที่ได้ยินตามวิทยุว่า

ปฏิรูปประเทศไทยร่วมกันเเก้ไขจะได้ปฏิบัติเป็นมาตราฐานเดียวกัน


ด้วยความเคารพอย่างสูง

จรัญ หนูพู่

ขอความเป็นธรรมขั้นพี้นฐาน





ตามระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2532) ว่าด้วยเงื่อนไขการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หมวด 2 ข้อ 10. บัญญัติไว้ว่า "ในกรณีที่ที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า และระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฏในหลักฐานการแจ้งการครอบครอง ให้ถือระยะที่ปรากฏในหลักฐานการแจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนดหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์"

ส่วนข้อ 8. วรรคสองบัญญัติไว้ว่า "ในกรณีที่ระยะของแนวเขตที่ดินผิดพลาดคลาดเคลื่อน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เท่าจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้ว เมื่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้ลงชื่อรับรองแนวเขตไว้เป็นการถู

ประชาชนจึงมีคําถาม


"ห้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนด" โดยอ้างเหตุ

สค1 จดที่รกร้างว่างเปล่าก็ต้องถือระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 10 ในกรณีที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่าเเละระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฎในหลักฐานเเจ้งการครอบครองให้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนด ถือว่าเจ้าหน้าที่ ดำเนินการรังวัดออก โฉนด. โดยมิชอบ

เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องถูกลงโทษทางวินัยและอาญาเมื่อดูแล้ว ไม่ปรากฎว่ามีประเด็นว่าเป็นที่หลวงหวงห้าม แต่เป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า ประชาชนย่อมมีสิทธิ์เข้าไปครอบครองโดยเปิดเผยครับแม้ที่ว่างเปล่าได้สละการครอบครอง ผู้ครอบครองต่อมาย่อมได้รับ"สิทธิ์ครอบครอง"แล้วตามประมวลกฎหมายแพ่ง และสามารถนำที่ดินนั้นไปขอออกโฉนด โดยมิได้แจ้งการครอบครองได้เพราะไม่ใช่ที่หลวงหวงห้าม ซึ่งเป็นข้อห้ามการออกโฉนดตามประมวลกฎหมายที่ดินการพยายามบอกกับสังคมว่าเป็นที่หลวงต้องเอาคืน ไม่มีตรงไหนที่บอกว่า เป็นที่หลวง....มันเป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบซึ่งมีหลากหลายสาเหตุแต่ที่ดินที่เข้าไปทำประโยชน์นั้น หากเป็นคนไทยเข้าไปทำประโยชน์โดยเปิดเผยต่อเนื่อง ย่อมได้สิทธิ์ครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งฯอยู่แล้วการออกเอกสารสิทธิ์ให้เป็นเพียงเป็นการรับรองโดยทางราชการเท่านั้นเองคนเรียนกฎหมายย่อมซึมซับเรื่องสิทธิ์ในที่ดินและเอกสารสิทธิ์ เค้ารู้ว่ามันเป็นคนละเรื่องส่วนเจ้าของในปัจจุบันได้สิทธิ์นั้นโดยการครอบครองแล้วครับเพราะได้สิทธิ์ในที่ดินด้วยการเข้าทประโยชน์แล้วออกโฉนดได้ ไม่มีปัญหา...เป็นโฉนดใหม่นะครับ...( แต่จะเป็นโฉนดหลังแดง ห้ามโอน ห้ามซื้อขายภายใน 10 ปี เพราะไม่ได้แจ้งการครอบครอง )หากมีการเดินสำรวจทั้งตำบล ก็ขอออกโฉนดได้ นำทำการรังวัดได้เลยหากไม่มีการเดินสำรวจทั้งตำบล สามารถรอขอออกใบจอง แล้วนำใบจองไปขอออกโฉนดเฉพาะรายที่สำนักงานที่ดินโฉนดเก่า หรือ นส. 3 . เก่า ก็ยกเลิกไปเรื่องเอกสารสิทธิ์ กับสิทธิครอบครอง เป็นคนละเรื่องกันก่อนออกโฉนดใหม่หลังจากทำการสอบสวนและทำการรังวัดใหม่แล้ว ต้องปิดประกาศ 30 วัน หากไม่มีผู้คัดค้าน ก็ออกได้เลยหากมีผู้ร้องค้าน ก็จะเป็นเรื่องที่เจ้าพนักงานที่ดินเรียกทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยที่สำนักงานที่ดินหากตกลงกันได้ก็จบ ออกโฉนดได้ หากเจ้าพนักงานที่ดินเห็นว่าผู้ร้องค้านไม่มีเหตุผลเพียงพอ ก็สั่งออกโฉนดได้ ( เป็นดุลพินิจของเจ้าพนักงานที่ดิน )กรณีนี้หากผู้ร้องคัดค้านเห็นว่าเป็นการออกโฉนดโดยมิชอบ ก็ไปร้องต่อศาลเอาเอง
กรณีที่ 2 หากผู้ร้องคัดค้านไม่ยินยอม เจ้าพนักงานที่ดินเห็นตามผู้ร้องคัดค้าน ก็จะไม่ออกโฉนดให้ ( เป็นดุลพินิจของเจ้าพนักงานที่ดินเช่นกัน )ผู้ขอออกโฉนดก็นำเรื่องร้องต่อศาล...สุดท้ายศาลจะเป็นผู้พิจารณาว่าที่ดินดังกล่าว สามารถออกโฉนดให้แก่ผู้ร้องได้หรือไม่ท้ายที่สุดเรื่องจะไปจบลงที่ศาลทั้งนั้น หากเป็นไปตามนี้..เพราะมิใช่ กันระยะโดยเหตุ"ทับที่หลวง" แต่เป็นเรื่องออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบซึ่งยังคงมีที่ดินบางแปลงมีกรณีพิพาทกันอยู่เจ้าหน้าที่ จะเป็นฝ่ายเสียหายซะเองยิ่งมาตอกย้ำว่า...สค1 จดที่รกร้างว่างเปล่า ต้องกันระยะ


ซึ้งตามกฎหมาย ในเมื่อข้างเคียงมิได้ใช้สิทธิ์คัดค้านนำชี้เขตหรือนำรังวัดหรือให้ถ้อยคำต่าง ก็ต้องพิจารณาว่ามีกฏหมายหรือระเบียบให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างไรหรือไม่ซึ่งก็คือตามนัยดังกล่าว


กรณีปัญหาที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ เเต่เเนวทางปฎิบัติเเตกต่างจากจังหวัดภูเก็ต

ด้านนายจำลอง โพธิ์เพชร หัวหน้าสำนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย เปิดเผยว่า ที่ดินงอกกับที่ดินเพิ่มไม่เหมือนกัน ข้อเท็จจริงเป็นการเพิ่มจากการรังวัดตามแนวเขตที่ดิน ซึ่งตามแนวเขตในหนังสือส..1 ได้แสดงลักษณะผังที่ดินประกอบไว้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่การรังวัดเป็นโฉนดที่ดินต้องใช้วิธีการตรรกะ (การคำนวณกราฟ) ปักหมุดตามหลักเขต ฉะนั้นรูปที่ดินในโฉนดที่ออกมาจะเปลี่ยนไปตามแนวที่วัดได้และส่วนที่เพิ่มมา ต้องเป็นไปตามเขตที่ดินดังกล่าว

นายจำลองกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่การรังวัดโฉนดเป็นไปได้ทั้งเนื้อที่ลดหรือเพิ่มขึ้นจากเดิม แต่ต้องเป็นไปตามการรังวัดของเจ้าหน้าที่ และต้องได้รับคำยินยอมจากเจ้าของที่ดินข้างเคียงเซ็นชื่อรับทราบยอมรับในแนวเขตดังกล่าว อย่าลืมว่าที่ดินบนเกาะสมุยมีราคาแพงคงไม่มีใครยอมให้คนอื่นมาบุกรุกกินเนื้อที่ของตนไปแน่ และหากเจ้าของที่ข้างเคียงไม่ยอมเซ็นชื่อก็ออกโฉนดให้ผู้ขอไม่ได้


สื่อมวลชลให้ความสนใจในเรื่ิองนี้

ละเอียดข่าว


กาขาว [ 13 ]


หนังสือพิมพ์เสียงใต้รายวัน ประจำวันที่ 16 มิถุนายน ..2553... ขอเชิญชวนพสกนิกรร่วมกันแสดงถึงความจงรักภักดีและลงนามถวายพระพร...

สำรวจตัวเลขยื่นคำร้องขอกรรมสิทธิ์ที่ดินบนเกาะภูเก็ต 1,400 ราย ที่ออกเอกสารไม่ได้ เป็นปัญหาโลกแตกสำหรับเกาะภูเก็ตหลายมาตรฐาน อย่างที่มท.3” ถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ชี้ว่าเป็นปัญหาที่ลาดชัน-ควนเขา”...z กฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 43”ให้อำนาจผู้ว่าฯแต่งตั้งคณะกรรมการประกอบด้วย ที่ดิน, ป่าไม้, นายอำเภอ, พัฒนาการที่ดิน และผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันตรวจสอบที่ดินที่มีปัญหา และการครอบครองก่อน ..2497 โดยเฉพาะ..1”...z ขั้นตอนนี้กรมที่ดินได้ประกาศให้ราษฎรที่ครอบครองขอออกโฉนดปัญหาที่จะถกเป็นประเด็นว่า..1”ที่ดินที่ครอบครองน้อยกว่าเป็นจริง เพราะการเลี่ยงภาษี”...z นี่เป็นประเด็นหนึ่งของการคอร์รัปชันคือ การต่อรองอามิสสินจ้างหรือขอส่วนแบ่งส่วนที่เกินในหลายรูปแบบ ความง่ายกลายเป็นยาก หรือความยากชาวบ้านขี้เกียจรำคาญกำขี่ดีกว่ากำตดเป็นเรื่องง่าย...z พูดถึงคณะกรรมการที่ผู้ว่าฯแต่งตั้ง ถือว่าร่วมฟันธงที่ดินแปลงไหนถูกหรือบุกรุกในเขตป่าสงวนแห่งชาติและที่ดินสาธารณะ เสนอรายงานต่อผู้ว่าฯมิใช่ว่าการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวอคติเมื่อติดเขตที่ดินของใคร เซ็นรับรองแนวเขตหรือติดเขตป่าฯ ติดประกาศ 30 วัน ใครค้านแย้งได้...z ที่เกิดขึ้นที่ดินเห็นแย้งป่าไม้ไม่มีปัญหา นายอำเภอและผู้ใหญ่บ้าน เห็นพ้อง แต่เป็นว่าการเสนอความเห็นส่วนตัวขัดต่อความเป็นจริง นี่ก็ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานเออ...เวรจงระงับด้วยการไม่จองเวร ชาวบ้านตาดำๆมีสิทธิ์ไหมครับ เอวังด้วยประการฉะนี้...z โฉนดบินเพราะโจรในเครื่องแบบร่วมมือกันโกงสมบัติชาติไม่อยากจะพูดมาก หรือไปสอนสังฆราชกฎกระทรวง .43” หากเกิดการขัดแย้ง ขอให้ผู้ตรวจกรม-กระทรวง-สำนักนายกรัฐมนตรีลงมาร่วมตรวจสอบ เชื่อว่า 1,400 แปลง ขุดหาความจริงได้...z ย้ายกลับมาใหญ่ นิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าฯภูเก็ตคนใหม่ (อดีตปลัดจังหวัด) คนภูเก็ต สับเปลี่ยนเก้าอี้กับ สมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย ย้ายไปเป็น รองผู้ว่าฯสุโขทัย ยินดีด้วย...z สนง. เขตพื้นที่การศึกษาภูเก็ต ถนัด ขวัญนิมิต ผู้อำนวยการ ย้ายไปเป็น ผอ.ฯเขต 2 พัทลุง ยกเก้าอี้ให้ ประไพ รัตนไพจิต ผอ.ฯร้อยเอ็ด คนเมืองคอนมานั่งแทน เพื่อรอเกษียณอายุ โชคดีเช่นกัน...z สนง.เหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต จัดฝึกอบรมผู้ประสานงานการจัดหาบริการโลหิต คน RH (เลือดลบ) ระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน ศกนี้ 2 วัน ที่โรงแรมเพิร์ลและโรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน.............

กาขาว

วันที่ : 15 มิ. 2553

ข้อมูล นสพ เสียงใต้

ภาพขนาดย่อของรายการ

กรณีที่ดินจังหวัดสุราษฎร์,พังงา,กระบี่,เลย เเนวทางปฎิบัติเเตกต่างจากจังหวัดภูเก็ต

การดำเนินการในการออกโฉนดที่ดิน กรณีเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามโครงการเร่งรัดออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ หากกระบวนการในการรังวัดถูกต้อง ครบถ้วน ก็สามารถแจกโฉนดได้ภายในระยะเวลาของโครงการฯ แต่หากมีปัญหาในการดำเนินการของขั้นตอนการรังวัด เช่น การรับรองแนวเขตไม่ครบถ้วน ก็จะต้องส่งเรื่องราวให้สำนักงานที่ดินท้องที่ดำเนินการต่อ โดยต้องนัดรังวัดตรวจสอบใหม่ เพื่อแจ้งให้ข้างเคียงที่ดินที่ไม่ได้รับรองแนวเขตมาระวังชี้แนวเขต ถ้าหากการดำเนินการในส่วนต่าง ดังกล่าวครบถ้วนแล้ว ก็สามารถออกโฉนดได้โดยเร็ว

ตอบโดย สำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา

ฝ่ายอํานวยการสํานักงานที่ดินจังหวัดกระบี่, พังงา เเละ กว จังหวัดเลย จังหวัด สุราษฎร์ ใช้ข้อเท็จจริง ต่างจากภูเก็ตยึดระยะตามสค1เป์นหลักไม่ใช้ข้อเท็จจริงที่เป็นปัจุบันผมเลยไม่เข้าใจเเต่ถ้าเป็นเเนวทางปฎิบัติเดียวกันประชาชนก็จะลดภาระไม่ต้องขึ้นศาลปกครองเพราะจะไม่มีความคิดว่าจังหวัดอื่นออกให้ครบเเต่จังหวัดเราถูกตัดระยะเลยตัองไปศาลปกครองเพราะที่ดินจังหวัดเเจ้งว่าเป็นคําสั่งทางปกครองให้ไปฟ้องศาลปกครองเลยคิดในใจนี่เราอยู่กับเพี่อนคนละรัฐเหมือนในอเมริการึเปล่าเพราะกฎหมายใชัคนละฉบับที่รู้มารัฐไทยเป็นรัฐเดี่ยวเเบ่งเเยกไม่ได้



---------------------------------------------------------------

------------------------------------------------------------


ปปช



กรณ๊ที่ที่ดินตั้งอยู่ในเขตป่าหรือคาบเกี่ยวเขตป่าไม้ ในชั้นออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ..3. ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นไปตรวจสอบแล้วและคณะกรรมการมีความเห็นว่าควรออก ..3.ให้ผู้ขอได้แล้ว ต่อมาผู้ขอได้นำหลักฐาน ..3.ฉบับนั้นมาขอออกโฉนดที่ดิน จำเป็นจะต้องตั้งคณะกรรมการฯขึ้นไปทำการตรวจพิสูจน์อีกหรือไม่ อย่างไร


คณะกรรมการ ... พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของ นายสมนึก ไพบูลย์ เป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ และเป็นความผิดทางอาญา ฐานเป็น เจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการ ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และมาตรา 157 จึงมีมติให้ส่ง รายงาน เอกสารและความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาและอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการทางวินัยและ ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาเป็นคดีอาญาต่อศาล ต่อไป




ถ้ามาดูที่เเปลงนี้


กรณีกรณ๊ที่ที่ดินตั้งอยู่ในเขตป่าหรือคาบเกี่ยวเขตป่าไม้ ในชั้นออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นไปตรวจสอบแล้วและคณะกรรมการมีความเห็นว่าควรออก โฉนด.ให้ผู้ขอได้แล้ว ต่อมาที่ิดินจังหวัดภูเก็ตได้เสนอความเห็นโดยไม่ใช้มติของคณะกรรมการตามกฎกระทรวงฉบับที่43 เสนอผู้ว่าซึ้งเป็นขั้นตอนที่ถูกต้อง 1 ใน5 ของคณะกรรมการมีที่ดินจังหวัดเป็นคณะกรรมการร่วมอยู่ด้วย ถ้าคณะกรรมการรับรองเเต่เจ้าที่ดินไม่รับรอง ดูเเล้วไม่ปฎิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย เป็นความผิดทางวินัยเเละใข้อํานาจโดยมิชอบ







ในฐานะเป็นคนไทยขอเป็นกําลังใจให้นายกทวงคืนเเผ่นดินไทยกลับมาในเร็ววัน

วันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2553

ผู้ตรวจกระทรวงมหาดไทยถึงผู้ว่าตรวจสอบข้อเท็จจริง

 วันที่ 2 เมษายน 2553  มีหนังสือเเจ้งให้ผู้ว่าตรวจสอบข้อเท็จจริง จากผู้ตรวจกระทรวงมหาดไทย จาก นาย ขจรศักดิ์ สิงโตกุล ผู้ตรวจกระทรวงมหาดไทยเขต 4 , 7

วันที่ 29เมษายน 2553 ผู้ว่า ให้ส่งเจ้าหน้าที่ของที่ดินจังหวัดตรวจสอบข้อเท็จจริง


ดํารงธรรมนําไทยใสสะอาด

จะมารายงานต่อในคราวหน้า



ตรวจราชการจังหวัดภูเก็ต



แนวทางและขั้นตอนการดําเนินการเรื่องราวรองทุกข์




 การดําเนินการเกี่ยวกับเรื่องรองเรียน/รองทุกข ไดมีการกําหนดแนวทางและขั้นตอนใน 
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ดังตอไปนี้ 
1.การรับและลงทะเบียนหนังสือรองเรียน/รองทุกข 
   - กรณีรองเรียนเปนหนังสือที่สงมาจากหนวยงานภายนอกและภายในกระทรวงมหาดไทย รวมทั้ง 
ที่มารองเรียนดวยตนเอง 
2. การเสนอผูบังคับบัญชาสั่งการตรวจสอบ 
     2.1 ปลัดกระทรวงมหาดไทย/หัวหนาผูตรวจราชการ มท. สั่งการ  
         - หนวยงานรัฐวิสาหกิจ/สวนราชการ/จังหวัด ตรวจสอบขอเท็จจริงแลวรายงานผลใหทราบ 
         - มอบหมายใหผูตรวจราชการ มท. ไปตรวจสอบ/สอบสวนและสดับตรับฟงขอเท็จจริง 
ตลอดจนเสนอแนะแนวทางแกไขปญหา แลวรายงานใหทราบ 
         - แตงตั้งคณะกรรมการประกอบดวยผูแทนสวนราชการหรือหนวยงานที่เกี่ยวของไปสอบสวน 
ขอเท็จจริง  ตลอดจนเสนอแนะแนวทางการแกไขปญหา  แลวรายงานผลใหทราบ 
    2.2 ผูตรวจราชการ มท. สั่งการ 
         - จังหวัด ตรวจสอบขอเท็จจริงกรณีเปนเรื่องรองเรียนขาราชการที่มีระดับต่ํากวารองผูวา 
ราชการจังหวัด (ตั้งแตปลัดจังหวัดลงมา) และเรื่องรองเรียนในแตละเขตตรวจราชการที่ ผต.มท.แต 
ละเขตรับผิดชอบ 
3. การติดตามผลการดําเนินการ 
    เมื่อมีการแจงใหหนวยงานรัฐวิสาหกิจ/สวนราชการ/จังหวัดตรวจสอบขอเท็จจริงแลว  หากพน 
กําหนดระยะเวลา แลวยังไมไดรับรายงานผลจะมีการแจงเตือนเปนระยะๆ ดังนี้ 
    - เตือนครั้งที่ 1 เมื่อครบกําหนด 30 วัน 
    - เตือนครั้งที่ 2 เมื่อครบกําหนด 15 วัน  นับตั้งแตไดรับการเตือนครั้งที่
    - เตือนครั้งที่ 3 เมื่อครบกําหนด   7 วัน  นับตั้งแตไดรับการเตือนครั้งที่
4 . การรายงานผล 
    - เมื่อหนวยงานรัฐวิสาหกิจ/สวนราชการ/จังหวัดตรวจสอบขอเท็จจริงและสรุปรายงานผลมายัง 
กระทรวงมหาดไทยแลว  ผต.มท. ดําเนินการสรุป วิเคราะหและรายงานผลการตรวจสอบขอเท็จจริง 
เพื่อนําเรียน ปมท./หน.ผต.มท. ทราบและพิจารณาสั่งการ หรือยุติเรื่อง  ถาเปนกรณีที่เปนเรื่อง 
รองเรียนตอรัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย จะนําเรียน รมว.มท. เพื่อโปรดทราบ  สวนเรื่องยุติ 
แลวจะแจงใหหนวยงานที่สงเรื่องมาใหและแจงใหผูรองทราบตอไป

วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

รับหนังสือคําขอรังวัดออกโฉนดทีดิน


นที่16 ตุลาคม 2550 ทีดินจังหวัดมีหนังสือ เเจ้งเรื่อง การรังวัดออกโฉนดที่ดิน คําขอรังวัดออกโฉนดทีดิน ฉบับที่ 145/146ลงวันที่ 1 กันยายน2550 โดย นาย ไพทูลย์ เลิศไกร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต










Item Thumbnail


Item Thumbnail

จ้าพนักงานทีดินจังหวัดภูเก็ต มีอํานาจหนัาที่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ประมวลกฎหมายที่ดิน (พ.ศ 2497)เเละกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ได้เกษียรสั่ง ในบันทึกข้อความของ ฝ่ายทะเบียนสํานักงานทีดินจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2552 ว่าดําเนินตาม

ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 10 กําหนดให้ที่ดินด้านหนึ่งด้านใดจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่าเปล่าเเละระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฎในหลักฐานเเจ้งการตรอบครองให้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนด
ให้กันพื้นที่นอก สค 1 ออก ทําให้สิทธิ์ในที่ดินของข้าพเจ้าถูกตัดออกไป



เจ้าาหน้าที่เสนอความเห็น



ภาพขนาดย่อของรายการ











ภาพขนาดย่อของรายการ


ไม่เป็นที่หลวงหวงห้าม
ประกาศครบ30วัน ไม่มีผู้ใดโต้เเย้งคัดค้าน
คณะกรรมการตามกฎกระทรวงฉบับที่43 สค 1 ถูกต้อง ออกให้ผู้ขอได้เต็มเเปลง


มีความเห็นจากฝ่ายทะเบียน ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 10 กําหนดให้ พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินให้ตามระยะที่ปรากฎในสคเท่านั้น

คงต้องอ่าน ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 10 ในกรณีที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า เละระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฎในหลักฐานเเจ้งการตรอบครองให้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนด


อ่านเเล้ว เจตนาของฉ 12 ข้อ 10 บอกไว้ชัดเจน

ในกรณีที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า
ข้อเท็จจริง ปัจุบันมีการเปลี่ยนเเปลงไปอยู่ตรงใหน คงตัองส่งไปให้กฏษฎีกาตีความ หรือ สภาทนายความช่วยกรมที่ดินคลายทุกข์ให้ประชาชน





แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (..1) เป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการหรือไม่
ในเรื่องนี้ได้มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2509 วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐานว่า การแจ้งการครอบครอง (..1) เป็น
เอกสารที่ผู้ครอบครองที่ดินยื่นต่อเจ้าพนักงานเพื่อแสดงว่ามีที่ดินอยู่ในความครอบครองของตนก่อนวันใช้บังคับประมวลกฎหมาย
ที่ดิน ไม่ใช่เอกสารที่เจ้าหน้าที่ทำขึ้น การที่เจ้าพนักงานลงเลขรับ ลงชื่อกำกับ และประทับตราเป็นการแสดงให้เห็นเพียงว่า
เอกสารนี้ได้ผ่านเจ้าพนักงานแล้วเท่านั้นไม่ทำให้หนังสือแบบแจ้งการครอบครองที่ผู้แจ้งทำกลายเป็นหนังสือที่เจ้าพนักงานทำไปได้
และไม่มีข้อความหรือความหมายเป็นการรับรองหนังสือแจ้งการครอบครองที่ดินแต่อย่างใดตามประกาศประทรวงมหาดไทย
ให้แจ้งการครอบครองที่ดินตามแบบ .. 1 ต่อนายอำเภอท้องที่โดยมีกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน รับรองว่าข้อความถูกต้องตาม
ความจริงนั้นเป็นเพียงประกาศแจ้งให้ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินก่อนวันใช้บังคับประมวลกฎหมายที่ดิน ไปแจ้ง
การครอบครองตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามประกาศดังกล่าวแล้วเท่านั้น และเป็นประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ
ให้ผู้แจ้งการครอบครองที่ดินปฏิบัติส่วนหนึ่ง ไม่ใช่เป็นประกาศหน้าที่ของกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน การที่กำนันผู้ใหญ่บ้านเซ็นชื่อ
รับรองในหนังสือแจ้งการครอบครองเป็นเพียงพยาน ไม่ใช่รับรองว่าหนังสือนั้นเป็นเสมือนหนังสือราชการ
หนังสือแจ้งการครอบครองที่ดิน (..1) จึงไม่ใช่เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ





ศูนย์ส่งเสริมประสิทธิภาพกรมที่ดิน
dol_soonsongserm@dol.go.th
ชื่อ : นายประทีป เจริญพร
ตำแหน่ง : รองอธิบดี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ กรมที่ดิน
สถานที่ทำงาน : กรมที่ดิน เลขที่ 2 ถนนพระพิพิธ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10200
โทรศัพท์ 0 2222 3830 , 0 2622 1753 โทรสาร 0 2222 1837

วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2553

ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12


ข้อกฎหมาย
Item Thumbnail


Item Thumbnail

Item Thumbnail

ภาพขนาดย่อของรายการ

มาตรา59ตรี หากเนื้อที่ใหม่ต่างจาก ส.ค.๑ให้ออกเท่าที่ทำประโยชน์โดยปฏิบัติไปตาม ระเบียบคณะกรรมการจัดฯ ฉ.12..ซึ่งระบุว่าถ้าออกตาม 59ตรี มีระยะและข้างเคียงตรงตาม ส.ค.๑ ออกเท่าที่ทำประโยชน์แล้วแต่ไม่เกินจำนวนที่คำนวณได้...ตรงนี้ไม่โอกาสเป็นไปไม่ได้ ระยะกว้างยาวอย่างละเส้น วัดใหม่ได้อย่างละเส้น ข้างเคียงตรงกับ ส.ค.๑ ออกได้เลย 1 ไร่ แต่ถ้าทำประโยชน์แล้วคำนวณได้แค่2งาน ก็ให้ออกได้แค่2งาน ส่วนที่เหลืออีก2งานไม่ออกให้....จึงมีขยักที่สอง...หากระยะผิดพลาดคลาดเคลื่อน...ออกเท่าที่ทำประโยชน์โดยต้องมีการรับรองเขตครบ....คำว่ารับรองเขตครบเป็นอย่างไร ได้ขยายความไว้ใน
ข้อ9 ของระเบียบฯ....จดป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า...ใช้ระยะเป็นหลัก....เพราะไม่สามารถพิสูจน์ไปได้ไกลขนาดใหนถึงจะถึงป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า เท่ากับในขณะที่แจ้ง.....ซึ่งก่อให้เกิดสิทธิตาม ป.ที่ดินเท่ากับขณะที่แจ้ง..ส่วนที่ไม่ได้แจ้ง ไม่ก่อให้เกิดสิทธิ "คำว่าออกโฉนดต้องมีการรับรองเขตให้ครบ แล้วขยายคำว่าครบเป็นอย่างไรนั้น" เลยถูกนำมาใช้ทุกกรณี....โดยคิดว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยถูกต้องแล้ว....และก็รักษาสิทธิให้ข้างเคียงจัง....ทำให้ข้างเคียงหรือทุกส่วน มองเป็นหน้าที่ของที่ดินไปเสียแล้ว

Item Thumbnail
ดูชัดๆเลยครับ  12 ข้อ 10 กรณีที่ด้านใหนติดป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า
ความหมายน่าจะพูดถึงที่ดินที่จดที่ว่างเปล่าบนข้อเท็จจริงตามปัจุบัน ไม่ใช้ในสค1ระบุอย่างไรก็ถือตามนั้น กรมที่ดินควรตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงเพื่อหาข้อยุติในการบริการประชาชน


Item Thumbnail

ท่านอธิบดีครับฉ12ข้อ8 วรรค 2 กรมสั่งไม่ให้ใช้หรือครับ

ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 8 วรรค 2
กรณีที่ระยะเเนวเขคผิดพลาดคลาดเคลื่อน ให้พนักงานที่ออกโฉนดหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน์เท่าจํานวนเนื้อที่ได้ทําประโยชน์เเล้วเมื่อผู้มีสิทธิ์ในที่ดินข้างเคียงได้ลงชื่อรับรองเเนวเขตไว้เป็นการถูกต้องครบถ้วนทุกด้าน

วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553

ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ8วรรค2 เเละข้อ 9











ท่านผู้มีอํานาจช่วยพิจรณา ทบทวน
เเนวทางที่ ประมวลกฎหมายที่ดิน (. 2497 )เเละ
ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติฉบับที่ ๑๒
หมวด 2 การออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน์ตามมาตรา59ตรี เเห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
ข้อ8 วรรค2 เเละ ข้อ7




ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 8

ได้วางเเนวทางกรณี ที่มีการรับรองข้างเคียงครบทุกด้าน


มาตรา59ตรี หากเนื้อที่ใหม่ต่างจาก ส.ค.๑ให้ออกเท่าที่ทำประโยชน์โดยปฏิบัติไปตาม ระเบียบคณะกรรมการจัดฯ ฉ.12..ซึ่งระบุว่าถ้าออกตาม 59ตรี มีระยะและข้างเคียงตรงตาม ส.ค.๑ ออกเท่าที่ทำประโยชน์แล้วแต่ไม่เกินจำนวนที่คำนวณได้...ตรงนี้ไม่โอกาสเป็นไปไม่ได้ ระยะกว้างยาวอย่างละเส้น วัดใหม่ได้อย่างละเส้น ข้างเคียงตรงกับ ส.ค.๑ ออกได้เลย 1 ไร่ แต่ถ้าทำประโยชน์แล้วคำนวณได้แค่2งาน ก็ให้ออกได้แค่2งาน ส่วนที่เหลืออีก2งานไม่ออกให้...จึงมีขยักที่สอง...หากระยะผิดพลาดคลาดเคลื่อน...ออกเท่าที่ทำประโยชน์โดยต้องมีการรับรองเขตครบ....คำว่ารับรองเขตครบเป็นอย่างไร ได้ขยายความไว้ในข้อ9ของระเบียบฯ....จดป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า...ใช้ระยะเป็นหลัก....เพราะไม่สามารถพิสูจน์ไปได้ไกลขนาดใหนถึงจะถึงป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า เท่ากับในขณะที่แจ้ง.....ซึ่งก่อให้เกิดสิทธิตาม ป.ที่ดินเท่ากับขณะที่แจ้ง..ส่วนที่ไม่ได้แจ้ง ไม่ก่อให้เกิดสิทธิ "คำว่าออกโฉนดต้องมีการรับรองเขตให้ครบ แล้วขยายคำว่าครบเป็นอย่างไรนั้น" เลยถูกนำมาใช้ทุกกรณี


ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 9

การรับรองแนวเขตของผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงตามข้อ ๘ วรรคสอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งเป็นหนังสือซึ่งมีข้อความด้วยว่า ถ้าผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงไม่มาหรือมาแต่ไม่ยอมลงชื่อรับรองแนวเขตโดยไม่คัดค้านการรังวัด เมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันทำการรังวัด พนักงานเจ้าหน้าที่จะได้ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยไม่ต้องมีการรับรองแนวเขต ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงตามที่อยู่ที่เคยติดต่อ หรือตามที่อยู่ที่ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงนั้นได้แจ้งเป็นหนังสือไว้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อให้มารับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัดและให้อยู่ในบังคับแห่งเงื่อนไขดังต่อไปนี้

(๑) ในกรณีที่ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้รับหนังสือจากสำนักงานเจ้าหน้าที่ให้มาระวังแนวเขตแล้ว แต่ไม่มาหรือมาแต่ไม่ยอมลงชื่อรับรองแนวเขตโดยไม่คัดค้านการรังวัด ให้พนักงานเจ้าเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดิน ๒) หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เท่าจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้ว โดยไม่ต้องมีการรับรองแนวเขตเมื่อพ้นกำหนดเวลาสามสิบวันนับแต่วันทำการรังวัด(๓) ในกรณีที่ไม่อาจติดต่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงให้มาระวังแนวเขตได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปิดประกาศแจ้งให้ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงนั้นมาลงชื่อรับรองแนวเขต หรือคัดค้านการรังวัดไว้ในที่เปิดเผย ณ สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินสาขา สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอ หรือกิ่งอำเภอ ที่ทำการกำนัน ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน และบริเวณที่ดินของผู้ที่มีสิทธิในที่ดินขา้งเคียงแห่งละหนึ่งฉบับ ในกรณีที่ดิน อยู่ในเขตเทศบาล ให้ปิด ณ สำนักงานเทศบาลอีกหนึ่งฉบับด้วย ถ้าผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงไม่มาติดต่อหรือคัดค้านประการใดภายในสามสิบวันนับแต่วันปิดประกาศ ให้สำนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำระโยชน์เท่าจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้ว โดยไม่ต้องมีการรับรองแนวเขต


ในเมื่อข้างเคียงมิได้ใช้สิทธิ์คัดค้านนำชี้เขตหรือนำรังวัดหรือให้ถ้อยคำต่าง  ก็ต้องพิจารณาว่ามีกฏหมายหรือระเบียบให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างไรหรือไม่ซึ่งก็คือตามนัยดังกล่าว....


































ส.ค.1 เป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการหรือไม่




แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (..1) เป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการหรือไม่
ในเรื่องนี้ได้มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2509 วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐานว่า การแจ้งการครอบครอง (..1) ไม่มีข้อความหรือความหมายเป็นการรับรองหนังสือแจ้งการครอบครองที่ดินแต่อย่างใดตามประกาศประทรวงมหาดไทย
ในกรณีที่ปรากฏหลักฐานว่าการแจ้งการครอบครองที่ดินดังกล่าวนั้น มีการผิดพลาดคลาดเคลื่อน ให้นายอำเภอสอบสวนเสนอ
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาสั่งการเช่นเดียวกันแล้วให้แก้ทะเบียนการครอบครองที่ดินตามกรณี
เข้าใจวว่าสค1 เป็นเอกสารรับรอง

อ่านหลายรอบ ความเข้าใจส่วนต้วเเละผู้รู้ครูบาอาจารย์ มีความเข้าใจว่า ถูกต้อง ถ้าที่ดินเเปลงนั้นปัจุบันตามข้อเท็จจริง ที่ดินด้านหนึ่งด้านใดจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า ให้ช้ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 10



มีสองเเนวทางที่จะเป็นคําตอบสุดท้ายจากศาลปกครอง


มีสองเเนวทางที่จะเป็นคําตอบสุดท้ายจากศาลปกครอง

เเนวทางที่หนึ่ง ความเห็นที่ดินจังหวัดภูเก็ตถูก หมายความว่าระเบียบคณะกรรมการจัดฯ ฉ.12..ซึ่งระบุว่าถ้าออกตาม 59ตรี ที่ใช้มาตลอดจนปัจุบัน ผิด กรณีข้างเคียงเปลี่ยนเเปลง


มาตรา59ตรี หากเนื้อที่ใหม่ต่างจาก ส.ค.๑ให้ออกเท่าที่ทำประโยชน์โดยปฏิบัติไปตาม ระเบียบคณะกรรมการจัดฯ ฉ.12..ซึ่งระบุว่าถ้าออกตาม 59ตรี มีระยะและข้างเคียงตรงตาม ส.ค.๑ ออกเท่าที่ทำประโยชน์แล้วแต่ไม่เกินจำนวนที่คำนวณได้...ตรงนี้ไม่โอกาสเป็นไปไม่ได้ ระยะกว้างยาวอย่างละเส้น วัดใหม่ได้อย่างละเส้น ข้างเคียงตรงกับ ส.ค.๑ ออกได้เลย 1 ไร่ แต่ถ้าทำประโยชน์แล้วคำนวณได้แค่2งาน ก็ให้ออกได้แค่2งาน ส่วนที่เหลืออีก2งานไม่ออกให้....จึงมีขยักที่สอง...หากระยะผิดพลาดคลาดเคลื่อน...ออกเท่าที่ทำประโยชน์โดยต้องมีการรับรองเขตครบ....คำว่ารับรองเขตครบเป็นอย่างไร ได้ขยายความไว้ในข้อ9ของระเบียบฯ....จดป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า...ใช้ระยะเป็นหลัก....เพราะไม่สามารถพิสูจน์ไปได้ไกลขนาดใหนถึงจะถึงป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า เท่ากับในขณะที่แจ้ง.....ซึ่งก่อให้เกิดสิทธิตาม ป.ที่ดินเท่ากับขณะที่แจ้ง..ส่วนที่ไม่ได้แจ้ง ไม่ก่อให้เกิดสิทธิ "คำว่าออกโฉนดต้องมีการรับรองเขตให้ครบ แล้วขยายคำว่าครบเป็นอย่างไรนั้น" เลยถูกนำมาใช้ทุกกรณี


เเนวทางที่สอง ให้ที่ดินจังหวัดภูเก็ต ปฎิบัติตาม ระเบียบคณะกรรมการจัดฯ ฉ.12..ซึ่งระบุว่าถ้าออกตาม 59ตรี โดยเคร่งครัด

ประชาชนที่เข้าใจตามความเห็นที่ดินในอดีตที่ผ่านมา ใช้เเนวทางจากคําตัดสินมาฟ้องกรณืไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะความไม่เข้าใจกฎหมายเเละเจ้าหน้าที่ใช้คําสั่งทางปกครองให้เซ็นยินยอมในการออกโฉนด
โดยใช้ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 10 ในกรณีที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า เละระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฎในหลักฐานเเจ้งการตรอบครองให้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนด


โดยใช้ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่12 ข้อ 10 ในกรณีที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า เละระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฎในหลักฐานเเจ้งการตรอบครองให้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนด

ผมไม่อยากคิดว่าความผิดนั้นคือโอกาส


"มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ"
เห็นเขาฟ้องนักการเมืองเรื่องหวยบนดินแล้วเสียว.....กรณีจะเสียสิทธิหรือได้สิทธิ....เป็นกรณีที่น่ากลัว.....ต้องดูว่ากฏหมายรองรับเราแค่ใหน...หรือกรมสั่งการเราแค่ใหน..........จะได้มีสิ่งรองรับและไม่ต้องรับผิดทางละเมิด........
ผมนี่กลัวในความเชื่อมั่นในตัวเองอย่างมาก...จนไม่มีความเชื่อมั่น....แต่คนกลัวคือคนไม่กล้า....คนไม่กล้าโอกาสผิดน้อย......แต่คนไม่ทำจะไม่มีโอกาสผิดเลย..........
ผมไม่อยากคิดว่าความผิดนั้นคือโอกาส ขอเลือกไม่ทำจะได้ไหมครับท่าน






งานค้างเกินมาตรฐาน..ความรับผิดชอบในงานแผนที่....กับความรับผิดชอบในการสอบสวน..และรับผิดชอบทางกฏหมาย.....ทั้งสองอย่างมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง.....
หากรับผิดชอบเฉพาะงานแผนที่....ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบตามกฏหมายในด้านอื่นๆ...เช่นออกโฉนดไปโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายก้ไม่ต้องรับผิดชอบเพราะมีฝ่ายวิชาการเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง.....
จะรับผิดชอบเฉพาะงานแผนที่ ที่ได้กระทำลงไปนั้นถูกต้องตามหลักวิชาการหรือไม่....หากไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง
ช่างจะไม่มีส่วนได้ และส่วนเสีย เมื่อเรื่องรังวัดผิดกระบวนการทางกฏหมาย...ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนใดๆที่เกี่ยวเนื่องกับกฏหมาย ก็ให้ผู้มีความรู้ทางด้านวิชาการนั้นๆ เป็นผู้ซึ่งรับผิดชอบ ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการพิจารณาในทางกฏหมายของเรื่องนั้นๆ

คําตอบทั่วประเทศไม่สอดคล้องกับภูเก็ต


สํานักฝ่ายมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญกรมที่ดินรวมทั้ง
ฝ่ายอํานวยการสํานักงานที่ดินจังหวัดกระบี่เเละ กว จังหวัดเลย ใช้ข้อเท็จจริงไม่ยึดระยะในสค1 ต่างจากภูเก็ตยึดระยะตามสค1ไม่ใช้ข้อเท็จจริงผมเลยไม่เข้าใจเเต่ถ้าเป็นเเนวทางปฎิบัติเดียวกันประชาชนก็จะลดภาระไม่ต้องขึ้นศาลปกครองเพราะจะไม่มีความคิดว่าจังหวัดอื่นออกให้ครบเเต่จังหวัดเราถูกตัดระยะเลยตัองไปศาลปกครองเพราะที่ดินจังหวัดเเจ้งว่าเป็นคําสั่งทางปกครองให้ไปฟ้องศาลปกครองเลยคิดในใจนี่เราอยู่กับเพี่อนคนละรัฐเหมือนในอเมริการึเปล่าเพราะกฎหมายใชัคนละฉบับที่รู้มารัฐไทยเป็นรัฐเดี่ยวเเบ่งเเยกไม่ได้



กรมที่ดินได้วางเเนวทางไว้ ตอบโดย สำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญกรมที่ดิน




คำถามเลขที่ : 5207-061042 เรื่อง การรังวัดออกโฉนดที่ดินกรณีหลักฐาน..1

รายละเอียด :
..1 ทิศเหนือ จกเหมืองสาธารณประโยชน์ ระยะ 40 เมตร ทิศใต้จดห้วยสาธารณฯระยะ 40 เมตร ทิศตะวันออกจดนาย .ระยะ 50 เมตร ทิศตะวันตกจดห้วยสาธารณฯระยะ 20 เมตร นำมายื่นคำขอรังวัดออกโฉนดที่ดิน ชี้ระวางแผนที่แล้วที่ดินอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร ช่างออกไปทำการรังวัดผลการรังวัดปรากฏว่า ด้านทิศเหนือจดเหมืองฯ(คงเดิม)ได้ระยะ 42 เมตร(มากกว่าเดิม 2 เมตร)ทิศใต้จดห้วยสาธารณฯ(คงเดิม)ได้ระยะ 42เมตร(มากกว่าเดิม 2 เมตร)ทิศตะวันออกจดนาย .(คงเดิม)ได้ระยะ 50 เมตร(เท่าเดิม)ทิศตะวันตกจดห้วยสาธารณฯได้ระยะ 20 เมตร ข้างเคียงมาระวังชี้แนวเขตครบ ผู้ปกครองท้องที่รับรองแนวเขตที่สาธารณฯถูกต้องสอบสวนนาย .ปรากฏว่าไม่มีหลักฐานสำหรับที่ดินหรือ ..1แต่อย่างใด กรณีนี้ต้องปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติฉบับที่ 12 (..2532)ข้อ 8 วรรค 2 หรือข้อ 10 และข้างเคียงด้านทิศตะวันออกจะถือว่าเป็นป่าไม้ถาวร หรือ เป็นที่มีการครอบครองของนาย .
โดยคุณ :
นายเปรมยุทธ เจริญสิน นายช่างรังวัดชำนาญงาน
วันที่ :
30 กรกฏาคม 2552 20:08 .





คำตอบที่ 1
รายละเอียด :
คำตอบ
การออกโฉนดที่ดินโดยอาศัยหลักฐาน ส.ค.๑ เมื่อระยะแนวเขตเปลี่ยนแปลง และข้างเคียงรับรองแนวเขตครบ 
ผู้ปกครองท้องที่รับรองแนวเขตที่สาธารณะฯ ถูกต้อง ให้ปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๓๒) ข้อ  วรรคสอง เนื่องจากไม่ได้มีด้านจดที่ป่าแต่อย่างใด
สำหรับข้างเคียงทางด้านทิศตะวันออก เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า จดที่ดินของนาย ก. ตามหลักฐาน ส.ค.๑ คงเดิมการเขียนข้างเคียงด้านทิศตะวันออกจะเขียนว่าที่มีการครอบครอง ไม่ว่าที่ดินของนาย ก. ซึ่งเป็นที่ดินที่ไม่มีหลักฐานนั้นจะอยู่ในเขตป่าไม้ถาวรหรือไม่ก็ตาม เพราะการเขียนและรับรองแนวเขตดังกล่าวจะเป็นไปตามระเบียบกรมที่ดินว่าด้วย การเขียนข้างเคียงและการรับรองแนวเขตที่ดิน พ.ศ. ๒๕๔๑ ข้อ ๗.๒ แม้ว่า นาย ก. จะไม่มีหลักฐานใดก็ให้เขียนข้างเคียงว่าที่มีการครอบครอง ตามข้อเท็จจริง
""""""""""
ตอบโดย :
สำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ
ประสานงานโดย :
สำนักงานเลขานุการกรม โทร.0-2221-5682, 0-2226-3073
วันที่ :
13 สิงหาคม 2552 10:26 .



ที่มา

Item Thumbnail

ถาม-ตอบ กับมีชัย


ครอบครองที่ดินว่างเปล่า
มีคนเข้ามาปลูกบ้านในที่ดินว่างเปล่าซึ่งมีโฉนด เป็นเวลากว่า 30 ปี โดยที่ ผู้ครอบครองก็เข้าใจว่าเป็นที่ดินว่างเปล่า และเจ้าของที่ดินก็ไม่รู้ว่าตนเอง มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น ต่อมาผู้ครอบครองไปติดต่อส่วนราชการได้ทราบว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินมีโฉนด จึงร้องครอบครองปรปักษ์ เมื่อศาลส่งหมายให้ผู้มีชื่อในโฉนดจึงทราบว่าตนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์จากการรับโอน
ถามว่า 1.ความไม่รู้ของเจ้าของกรรมสิทธิ์จะยกขึ้นกล่าวอ้างกับผู้ครอบครองได้หรือไม่
2. การที่ผู้ครอบครองไม่รู้ว่าเป็นที่ดินของผู้อื่น (ม.1382) แต่เข้าใจว่าเป็นที่ดินว่างเปล่าจะถือว่าครอบครองปรปักษ์ได้หรือไม่

คําตอบ


1. ยกขึ้นกล่าวอ้างไม่ได้
2ที่ดินว่างเปล่าน่ะไม่มีหรอก ถ้าไม่ใช่ของใครคนหนึ่งก็เป็นของหลวง


ที่อาจารย์มีชัย คอบ ข้อ2 ถ้าเทียบเคียงกับสค1 ของข้าพเจ้า ที่ทางที่ดินมีความเเห็นว่า
ดําเนินตาม
ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 10 กําหนดให้ที่ดินด้านหนึ่งด้านใดจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่าเปล่าเเละระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฎในหลักฐานเเจ้งการครอบครองให้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนดให้กันพื้นที่นอก สค 1 ออก

ดูจาก ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 10 ทาง สนง ที่ดินจังหวัดภูเก็ต น่าจะไม่รับรองที่ข้างเคียง ว่ามีการครอบครอง เพราะยังมีความเห็นว่าจดที่ป่าหรือที่ว่างเปล่า เเล้วในระวาง เขียนในเเต่ละด้านว่า ที่มีการครอบครอง เเปลว่าระวางมีปํญหา

ที่มา http://www.meechaithailand.com/ver1/?module=4&cateid=13&action=view&id=038395#q



ฝ่าย กว ที่ดินจังหวัดเลยยึดข้อเท็จจริงไม่ยึดระยะในสค1ต่างจากสํานักงานที่ดินภูเก็ตยึดระยะตามสค1

ยื่นขอโฉนด จาก สค1 แล้วเจ้าหน้าที่รังวัด ไม่รังวัดไห้ ทำไงดีครับ
อ้างถึงข้อความนี้ ในการตอบของคุณ
ผมได้ยื่นขอออกโฉนดจาก สค 1 ตามที่รัฐประกาศ ไว้ที่ สนง.ที่ดิน จ.เลย แล้วมีช่างมาสำสวจพื้นที่ของผม แล้วบอกว่าไม่สามารถออกโฉนดให้ได้ เนื่องจากมันไม่ตรงระวางไม่ตรงจุด เป็น สค1 บิน ไปซะอย่างงั้น มันจะบินมาจากไหนละครับ ก็เจ้าของเดิมเขาก็มีชีวิตอยู่ จำนวนพื้นที่ก็ 2 ไร่เท่ากัน เจ้าของที่ดินก็คนเดียวกัน สภาพพื้นที่มันเปลี่ยนไปตามอายุของมัน ตั้ง 50 กว่าปีแล้ว กลายเป็นถนนบ้างกลายเป็นบ้าน เป็นสวนบ้าง แล้ว สค1 ที่ผมถืออยู่นี่ก็ไม่มีระยะบอกเขตด้วยว่าทิศใหนระยะเท่าใดมีหมุดอยู่ที่ใหน จนท.ท่านนั้นฟันธงเลยว่าออกโฉนดให้ไม่ได้ แถมยังบอกว่าผมจะติดคุกอีก จะอะไรกันนักกันหนาครับท่าน ผมมาขอออกโฉนดนะครับท่าน ไม่ใช่มาขอติดคุก และยังบอกกับผมต่อว่าให้รีบขายใบ สค1.ไปซะ จะได้ไม่เสียสิทธิ์ ยังงี้ก็มีด้วย ผมขอถามตรงๆนะครับว่าเมื่อเป็นเช่นนี้จะให้ผมดำเนินการอย่างใดต่อไป จะให้ผมไปฟ้องที่ศาลใหน ภายในกี่วัน ผมจะได้ไม่ถูกรอนสิทธิ์ครับ...
คนเมืองเลย118.175.122.* [ 17 ธ.ค. 2552 เวลา 05:08 ] ตอบคำถามนี้




ตามประกาศของกรมที่ดินให้ผู้มี หลักฐาน ..1 ไปยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ภายใน 6 กุมภาพันธ์ 2553 หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวจะต้องมีคำพิพากษาของศาลมาเพื่อประกอบการออกเอกสารสิทธิ

ในการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ถ้าเป็นการออกเฉพาะรายตามมาตรา 59 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินผู้ขอต้องไปยื่นคำขอ  สำนักงานจังหวัดหรือสาขาที่ที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่ ในการยื่นคำขอดังกล่าวผู้ขอต้องชี้ตำแหน่งที่ดินได้ว่าที่ดินที่จะขอออกโฉนดที่ดินอยู่ระวางใด(การที่จะรู้ได้ว่าที่ดินแปลงใดอยู่ระวางใดโดยนำโฉนดที่ดินข้างเคียงมาประกอบ)

หรือโดยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยจะมีประกาศกำหนดพื้นที่ที่จะทำการเดินสำรวจ เมื่อประกาศแล้วจะแจ้งไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้านท้องที่ที่จะทำการเดินสำรวจ เจ้าของที่ดินที่มีหลักฐาน ..1 ก็สามารถยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ทำการเดินสำรวจในพื้นที่ได้เลย

ในการออกโฉนดที่ดินดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนจนเชื่อได้ว่าที่ดินที่จะออกโฉนดหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตาม ..1 นั้นเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน (ในการที่จะเชื่อว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกันหรือไม่ก็โดยการสอบสวนข้างเคียงถึงแม้ว่าปัจจุบันสภาพอาจเปลี่ยนแปลงไปก็สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าเจ้าของเดิมเป็นใคร ใช่เจ้าของที่ดินข้างเคียงที่ได้แจ้งไว้ใน ..1 หรือไม่ และพยานหลักฐานอื่นประกอบด้วย เช่นผู้ปกครองท้องที่ ฯลฯ)

ในการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ถ้าปรากฏว่าที่ดินมีอาณาเขต ระยะแนวเขต และที่ดินข้างเคียงทุกด้านถูกต้องตรงกับหลักฐานการแจ้ง..1 และเชื่อได้ว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน แต่เนื้อที่ที่คำนวณได้แตกต่างไปจากเนื้อที่ตาม ..1 จะออกโฉนดที่ดินให้ตามเนื้อที่ที่ครอบครองทำประโยชน์แล้ว
ในกรณีที่ระยะของแนวเขตผิดพลาดคลาดเคลื่อน จะออกโฉนดที่ดินให้ตามจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้ว ก็ต่อเมื่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้ลงชื่อรับรองแนวเขตครบทุกด้าน
ในกรณีของท่านให้ไปยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  สำนักงานที่ดินท้องที่ไว้ก่อนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553 เพื่อจะได้ไม่ต้องไปใช้สิทธิทางศาล

หากท่านสงสัยหรือมีข้อมูลเพิ่มเติมให้ท่านไปพบเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเลย หรือสอบถามได้ที่กลุ่มงานวิชาการที่ดิน เบอร์โทรศัพท์ 0-4281-1560 ต่อ 18

กว.เลย 125.26.211.* [ 21 .. 2552 เวลา22:22 ] ความเห็นที่1/#0004 เขียนตอบคำตอบนี้

ที่มา

กระดานสนทนาสำนักงานที่ดินจังหวัดเลย
เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้, ถาม-ตอบปัญหา, แนะนำ, ติชม


จำนวนพื้นที่จริงกับ จำนวนพื้นที่ในใบ สค1 จำเป็นต้องเท่ากันหรือไม่

อย่างมี พื้นที่จริง 10 ไร่ แต่ใน สค1 มี3ไร่ จะออกโฉนดตามตัวใหน และถ้ามีเนื้อที่จริง3 ไร่ สค 1 มี 5 ไร่ จะทำอย่างไร
คนเมืองเลย 118.175.122.* [ 17 ธ.ค. 2552 เวลา 05:25 ]ตอบคำถามนี้

ตอบ : Q0005 - คนเมืองเลย [17 ธ.ค. 2552] 
ในการออกโฉนดที่ดินถ้า ส.ค.1 มีเนื้อที่ 3 ไร่ พื้นที่จริงมี 10 ไร่ หรือกรณีเนื้อที่จริง 3 ไร่ ส.ค.1 มี 5 ไร่ ใน
การออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ถ้าปรากฏว่าที่ดินมีอาณาเขต ระยะแนวเขต และที่ดินข้างเคียงทุกด้านถูกต้องตรงกับหลักฐานการแจ้ง ส.ค.1 และเชื่อได้ว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน แต่เนื้อที่ที่คำนวณได้แตกต่างไปจากเนื้อที่ตาม ส.ค.1 จะออกโฉนดที่ดินให้ตามเนื้อที่ที่ครอบครองทำประโยชน์แล้ว

ในกรณีที่ระยะของแนวเขตผิดพลาดคลาดเคลื่อน จะออกโฉนดที่ดินให้ตามจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้ว ก็ต่อเมื่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้ลงชื่อรับรองแนวเขตครบทุกด้าน

หากท่านสงสัยหรือมีข้อมูลเพิ่มเติมไปพบเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเลย หรือสอบถามได้ที่กลุ่มงานวิชาการที่ดิน เบอร์โทรศัพท์ 0-4281-1560 ต่อ 18

กว.เลย 125.26.211.* [ 21 ธ.ค. 2552 เวลา 22:25 ] ความเห็นที่ 1/#0005 เขียนตอบคำตอบนี้

ที่มา





ฝ่ายอํานวยการสํานักงานที่ดินจังหวัดกระบี่เเละ กว จังหวัดเลย ใช้ข้อเท็จจริงไม่ยึดระยะในสค1 ต่างจากภูเก็ตยึดระยะตามสค1ไม่ใช้ข้อเท็จจริงผมเลยไม่เข้าใจเเต่ถ้าเป็นเเนวทางปฎิบัติเดียวกันประชาชนก็จะลดภาระไม่ต้องขึ้นศาลปกครองเพราะจะไม่มีความคิดว่าจังหวัดอื่นออกให้ครบเเต่จังหวัดเราถูกตัดระยะเลยตัองไปศาลปกครองเพราะที่ดินจังหวัดเเจ้งว่าเป็นคําสั่งทางปกครองให้ไปฟ้องศาลปกครองเลยคิดในใจนี่เราอยู่กับเพี่อนคนละรัฐเหมือนในอเมริการึเปล่าเพราะกฎหมายใชัคนละฉบับที่รู้มารัฐไทยเป็นรัฐเดี่ยวเเบ่งเเยกไม่ได้



ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12



ข้อกฎหมาย

Item Thumbnail



Item Thumbnail


Item Thumbnail




มาตรา59ตรี หากเนื้อที่ใหม่ต่างจาก ส.ค.๑ให้ออกเท่าที่ทำประโยชน์โดยปฏิบัติไปตาม ระเบียบคณะกรรมการจัดฯ ฉ.12..ซึ่งระบุว่าถ้าออกตาม 59ตรี มีระยะและข้างเคียงตรงตาม ส.ค.๑ ออกเท่าที่ทำประโยชน์แล้วแต่ไม่เกินจำนวนที่คำนวณได้...ตรงนี้ไม่โอกาสเป็นไปไม่ได้ ระยะกว้างยาวอย่างละเส้น วัดใหม่ได้อย่างละเส้น ข้างเคียงตรงกับ ส.ค.๑ ออกได้เลย 1 ไร่ แต่ถ้าทำประโยชน์แล้วคำนวณได้แค่2งาน ก็ให้ออกได้แค่2งาน ส่วนที่เหลืออีก2งานไม่ออกให้....จึงมีขยักที่สอง...หากระยะผิดพลาดคลาดเคลื่อน...ออกเท่าที่ทำประโยชน์โดยต้องมีการรับรองเขตครบ....คำว่ารับรองเขตครบเป็นอย่างไร ได้ขยายความไว้ใน

ข้อ9 ของระเบียบฯ....จดป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า...ใช้ระยะเป็นหลัก....เพราะไม่สามารถพิสูจน์ไปได้ไกลขนาดใหนถึงจะถึงป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า เท่ากับในขณะที่แจ้ง.....ซึ่งก่อให้เกิดสิทธิตาม ป.ที่ดินเท่ากับขณะที่แจ้ง..ส่วนที่ไม่ได้แจ้ง ไม่ก่อให้เกิดสิทธิ "คำว่าออกโฉนดต้องมีการรับรองเขตให้ครบ แล้วขยายคำว่าครบเป็นอย่างไรนั้น" เลยถูกนำมาใช้ทุกกรณี....โดยคิดว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยถูกต้องแล้ว....และก็รักษาสิทธิให้ข้างเคียงจัง....ทำให้ข้างเคียงหรือทุกส่วน มองเป็นหน้าที่ของที่ดินไปเสียแล้ว


Item Thumbnail

ดูชัดๆเลยครับ 12 ข้อ 10 กรณีที่ด้านใหนติดป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า

ความหมายน่าจะพูดถึงที่ดินที่จดที่ว่างเปล่าบนข้อเท็จจริงตามปัจุบัน ไม่ใช้ในสค1ระบุอย่างไรก็ถือตามนั้น กรมที่ดินควรตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงเพื่อหาข้อยุติในการบริการประชาชน



Item Thumbnail


ท่านอธิบดีครับฉ12ข้อ8 วรรค 2 กรมสั่งไม่ให้ใช้หรือครับ


ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 8 วรรค 2

กรณีที่ระยะเเนวเขคผิดพลาดคลาดเคลื่อน ให้พนักงานที่ออกโฉนดหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน์เท่าจํานวนเนื้อที่ได้ทําประโยชน์เเล้วเมื่อผู้มีสิทธิ์ในที่ดินข้างเคียงได้ลงชื่อรับรองเเนวเขตไว้เป็นการถูกต้องครบถ้วนทุกด้าน